KTS Studio Media: ธันวาคม 2012

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สัญจรปลอดภัยวันแรกจ.สงขลา เกิดอุบัติเหตุ 8 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 11 คน เสียชีวิต 1 คน

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม / สัญจรปลอดภัยวันแรกจ.สงขลา เกิดอุบัติเหตุ 8 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 11 คน เสียชีวิต 1 คน

นายโส เหมกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จังหวัดสงขลาได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 จังหวัดสงขลา โดยมีการจัดตั้งจุดตรวจหลักบูรณาการ รวม 33 จุด ซึ่งในรอบ 24 ชั่วโมงของวันแรกในวันที่ 27 ธันวาคม 2555 เกิดอุบัติเหตุ รวม 8 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 11 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน คือ นายไพศาล ผุยคำภา อายุ 31 ปี

สำหรับสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงของการบาดเจ็บ และเสียชีวิตมากที่สุด เกิดจากการเมาสุรา รองลงมาคือการขับรถเร็วเกินกำหนด และ มีสิ่งกีดขวาง/ทัศนวิสัยไม่ดี โดยเกิดอุบัติเหตุกับรถจักรยานยนต์มากที่สุด รองลงมาเป็นรถปิคอัพ

บรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เริ่มคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ส่วนเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ข่าว สันติภาพ รามสูต / บรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เริ่มคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ส่วนเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

วันนี้(28ธ.ค.55) บรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เริ่มคึกคัก เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รถไฟทุกขบวนทั้งขบวนรถท้องถิ่นและสายยาวกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผู้โดยสารแน่นทุกขบวน โดยเฉพาะเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯถูกจองเต็มยาวไปจนถึงวันที่ 5 มกราคมปีหน้า อย่างไรก็ตามในส่วนของการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและอส.ดูแลบนขบวนรถ และมีการลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ล่อแหลมตั้งแต่จ.ยะลาจนถึงจ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่เกิดเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง ก่อนที่จะเดินรถทุกขบวนในช่วงเช้าเพื่อความปลอดภัยทั้งผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่

ขนส่งจังหวัดสงขลา เตือนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสารประจําทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารอําเภอหาดใหญ่ ให้ซื้อตั๋วภายในสถานีขนส่งเท่านั้น

ข่าว สุวดี ศรีสมบูรณ์ / ขนส่งจังหวัดสงขลา เตือนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสารประจําทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารอําเภอหาดใหญ่ ให้ซื้อตั๋วภายในสถานีขนส่งเท่านั้น

นายสมหมาย สุดขาว ขนส่งจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ปัจจุบันสำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา ได้รับการร้องเรียนจากผู้โดยสารผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 และทางสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.หาดใหญ่ เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.หาดใหญ่ แล้วแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานีขนส่งฯ หรือพนักงานของผู้ประกอบการขนส่ง หลอกลวงชักจูงผู้โดยสารให้ไปซื้อตั๋วโดยสารที่สำนักงานของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ภายนอกสถานีขนส่งฯ โดยมีการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด และในบางกรณี ก็ให้ผู้โดยสารไปขึ้นรถโดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง (รถทัวร์ผิดกฎหมาย) ภายนอกสถานีขนส่งฯ กำหนดเวลาออกรถก็ไม่มีความแน่นอน ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม ตามเงื่อนไขที่กำหนด มีการใช้พนักงานขับรถในเส้นทางสายยาว (เส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง) เพียงคนเดียว ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทาง ในกรณีนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลาได้จัดเจ้าหน้าที่ออกติดตาม ตรวจสอบ และหามาตรการแก้ไขป้องกันปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด และได้ประสานกับเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้ประชาสัมพันธ์ เตือนประชาชนที่เข้าไปใช้บริการสถานีขนส่งฯ ให้ซื้อตั๋วโดยสารกับเจ้าหน้าที่ภายในสถานีขนส่งฯ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ออกตรวจสอบ แนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีกลุ่มบุคคลภายนอกดังกล่าว เข้าไปหลอกลวงผู้โดยสารอยู่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ที่มีผู้ใช้บริการรถโดยสารเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา จึงขอแจ้งเตือนมายังพี่น้องประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอ.หาดใหญ่ ให้ซื้อตั๋วโดยสารกับเจ้าหน้าที่ในช่องจำหน่ายตั๋วภายในสถานีขนส่งฯ เท่านั้น อย่าหลงเชื่อบุคคลภายนอกที่คอยแอบอ้างชักจูงให้ท่านไปซื้อตั๋วภายนอกสถานีขนส่งฯ เพราะจะทำให้ท่านต้องเสียค่าโดยสารเกินกว่าอัตราที่กำหนด หรือได้รับบริการรถโดยสารที่ไม่ได้มาตรฐานตรงตามที่ต้องการ และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง แต่ถ้าหากท่านถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวชักจูง หลอกลวงให้ซื้อตั๋วโดยสารนอกสถานีขนส่งฯ ก็ให้จดหมายเลขทะเบียนรถคันที่ท่านโดยสารไป แล้วโทรศัพท์แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา หมายเลข 1584 ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด เพื่อสำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลาจะได้ใช้เป็นข้อมูลติดตามลงโทษผู้ประกอบการขนส่งที่กระทำผิดกฎหมายต่อไป หากพบว่ารถโดยสารไม่ปลอดภัย ไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการ โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แขวงการทางสงขลา จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2556 อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่พี่น้องประชาชน

ข่าว สุวดี ศรีสมบูรณ์ / แขวงการทางสงขลา จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2556 อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่พี่น้องประชาชน

นายสำราญ สินธูระหัฐ ผู้อำนวยการแขวงการทางสงขลา เปิดเผยว่า เนื่องจากเทศกาล ปีใหม่ 2556 เป็นเทศกาลที่สำคัญเทศกาลหนึ่งของชาวไทย และมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนจะใช้เวลาในวันหยุดเดินทางในการท่องเที่ยวเยี่ยมญาติและกลับภูมิลำเนา เป็นเหตุให้สภาพจราจรหนาแน่น อาจก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดและอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และอำนวยความสะดวก ปลอดภัยในการจราจร แขวงการทางสงขลาจึงจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2555 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 2 มกราคม 2556 เวลา 24.00 น. โดยจะเปิดปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้

1. ศูนย์อำนวยความสะดวกฯ แขวงการทางสงขลา โทรศัพท์ 0-7431-1091 0-7432-120

2. ศูนย์อำนวยความสะดวกฯหมวดการทางสงขลา โทรศัพท์ 0-7433-3637

3. ศูนย์อำนวยความสะดวกฯหมวดการทางสิงหนครโทรศัพท์ 0-7433-1762

4. ศูนย์อำนวยความสะดวกฯหมวดการทางหาดใหญ่ที่ 1 โทรศัพท์ 0-7425-4899

5. ศูนย์อำนวยความสะดวกฯหมวดการทางหาดใหญ่ที่ 2 โทรศัพท์ 0-7443-8160

6. ศูนย์อำนวยความสะดวกฯหมวดการทางรัตภูมิที่ 2 โทรศัพท์ 0-7438-9193

7.ศูนย์อำนวยความสะดวกฯหมวดการทางสทิงพระ โทรศัพท์ 0-7445-8044

8 .หน่วยสนับสนุนหน่วยบริการเคลื่อนที่ ให้การบริการโดยอำนวยความสะดวกในการซ่อมแซมแก้ไขเครื่องยนต์ขัดข้อง กรณีเกิดต้นไม้ล้มกีดขวางการจราจร แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว โทรศัพท์ 0-7433-3637

และจัดตั้ง "จุดให้บริการทั่วไทย" ปฏิบัติงานร่วมกับจังหวัดสงขลา อำเภอและตำรวจท้องที่ ดังนี้

1.จุดร่วมบริการ หน้าป้อมตำรวจทางหลวงพรุพ้อ ทางหลวงหมายเลข 4 ตอน พรุพ้อ - คูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

2.จุดร่วมบริการ หน้าบริษัท จ.วินิต จำกัด ทางหลวงหมายเลข 4 ตอน คูหา - ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

3.จุดร่วมบริการ หน้าสำนักงานบำรุงทางสงขลาที่ 2 อ.นาหม่อม จ.สงขลา

4.จุดร่วมบริการ หน้าตลาดเบญจพรห้าแยกน้ำกระจาย อ.เมือง จ.สงขลา

5.จุดร่วมบริการ หน้าสถานีตำรวจอำเภอสิงหนคร อ.สิงหนคร จ.สงขลา

แขวงการทางสงขลา โทรศัพท์ 0-7431-1091

6.จุดร่วมบริการ หน้าอำเภอสทิงพระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แขวงการทางสงขลา โทรศัพท์ 0-7431-1091

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สปข.6 สงขลา กรมประชาสัมพันธ์ จัดงานครบรอบ 52 ปี พร้อมยืนหยัดยึดมั่นในปณิธาน “อุทิศตน ทุ่มเท เสียสละ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และความสุขของประชาชน”

ข่าว-ภาพ สุวดี ศรีสมบูรณ์ / สปข.6 สงขลา กรมประชาสัมพันธ์ จัดงานครบรอบ 52 ปี พร้อมยืนหยัดยึดมั่นในปณิธาน "อุทิศตน ทุ่มเท เสียสละ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และความสุขของประชาชน"

วันนี้(25ธ.ค.55) ที่ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 (สปข.6) กรมประชาสัมพันธ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้จัดให้มีการจัดงานวันครบรอบ 52 ปี สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 โดยมีข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานในสังกัด อาทิ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เพื่อการศึกษา จ.สงขลา และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

นายอารมณ์ คงสกูล ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 เมื่อปี 2503 เป็นต้นมากว่า 5 ทศวรรษแห่งความภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเพื่อการพัฒนาชีวิตของประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ประกอบด้วย จ.สงขลา สตูล พัทลุง ตรัง ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการสื่อสารข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐกับประชาชน ซึ่งสปข.6 ได้ดำเนินการตามภารกิจมาอย่างเข้มแข็งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากร ทั้งนี้ ได้มีการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" มาเป็นหัวใจสำคัญในการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความสมานฉันท์บนความหลากหลายทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต เพื่อคืนความสันติให้แก่พื้นที่ โดยความร่วมแรงร่วมใจและบูรณาการกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แก่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า(กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ตลอดจนพันธมิตรในพื้นที่ คือ วิทยุชุมชน เคเบิ้ลทีวี สื่อมวลชนท้องถิ่น

นายอารมณ์ คงสกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า สปข.6 พร้อมสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ให้มีความเข้มแข็ง สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ในปี 2558 กับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และยึดมั่นในปณิธาน "อุทิศตน ทุ่มเท เสียสละ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และความสุขของประชาชน" ต่อไป

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ภาคกลางวันจัดให้มีพิธีทำบุญเลี้ยงพระ กิจกรรม Road show และการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสามัคคีภายในหน่วยงาน ส่วนภาคกลางคืนมีการแต่งกายภายใต้แนวคิด "สีสันอาเซียน สก็อตโดนใจ" การแสดงสันทนาการ และการประกวดการแต่งกายสีสันอาเซียนซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน นอกจากนี้ทาง สวท.สงขลา ได้มีการถ่ายทอดเสียง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การจัดงานดังกล่าวให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอีกทางหนึ่งด้วย...

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา จัดเลี้ยงสังสรรค์สื่อมวลชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของไทยกับสื่อมวลชนทางเหนือของมาเลเซีย พร้อมส่งร่าง MOU สานความร่วมมือสื่อมวลชนไทย-มาเลเซียก้าวสู่ AEC ในปี 2015

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ สุริยา พรหมตีบ / กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา จัดเลี้ยงสังสรรค์สื่อมวลชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของไทยกับสื่อมวลชนทางเหนือของมาเลเซีย พร้อมส่งร่าง MOU สานความร่วมมือสื่อมวลชนไทย-มาเลเซียก้าวสู่ AEC ในปี 2015

วันนี้(24ธ.ค.55) ที่ สถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายมูฮัมหมัด ไฟซาล ราซาลี กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายมูฮัมหมัด โรไซมี ฮารน กงสุลที่ 1 มาเลเซีย ร่วมต้อนรับคณะสื่อมวลชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างและสื่อมวลชนจากรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย จำนวน กว่า 50 คน อาทิ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย นายณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สงขลา นายอัดนัน บิน จาฮายา ประธานสื่อมวลชนรัฐเปอร์ลิสมาเลเซีย ฯลฯ ในงานเลี้ยงสังสรรค์สื่อมวลชนฯ พร้อมส่งร่าง MOU ประสานความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ประกอบด้วย จ.สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กับรัฐเปอร์ลิสของมาเลเซีย

นายมูฮัมหมัด ไฟซาล ราซาลี กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ความสัมพันธ์ที่ดีในทุกๆด้านระหว่างประเ ทศไทยกับประเทศมาเลเซียมีมาอย่างช้านาน ทางกงสุลพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการสานสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะสื่อมวลชนทางภาคใต้ตอนล่างของไทยกับสื่อมวลชนทางเหนือของมาเลเซีย คือ รัฐปะลิส เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีในการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีการรับรู้ระหว่างกันได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ค.ศ.2015 ไปด้วยกัน ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศต่างก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม จึงอยากให้สื่อมวลชนของทั้งสองประเทศร่วมแลกเปลี่ยนประชาสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ยังมีการส่งมอบร่าง MOU ระหว่าง นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย กับ นายอัดนัน บิน จาฮายา ประธานสื่อมวลชนรัฐเปอร์ลิสมาเลเซีย ในการประสานความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องในทุกเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ที่จะต้องอาศัยรัฐบาลมาเลเซียมาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลดลง เพราะทั้ง 2 ประเทศมีอาณาเขตติดต่อเชื่อมโยงกัน

ขณะที่ นายณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา(สวท.สงขลา) ได้เรียนเชิญท่านกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลามาร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ในทุกด้าน ทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม วิถีชีวิต เศรษฐกิจ ฯลฯ ซึ่งทางกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลากล่าวตอบรับและยินดีที่จะมาออกอากาศทาง สวท.สงขลา เพราะถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ให้ชาวมาเลเซียได้รับทราบว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ

บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ อ.หาดใหญ่ เริ่มคึกคัก มีการนำต้นคริสต์มาสสูงเกือบ 10 เมตร มาประดับตกแต่งไว้กลางเมือง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

ข่าว ทักษิณ อรุณ / บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ อ.หาดใหญ่ เริ่มคึกคัก มีการนำต้นคริสต์มาสสูงเกือบ 10 เมตร มาประดับตกแต่งไว้กลางเมือง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

วันนี้ (24 ธ.ค. 55) บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เริ่มคึกคัก โดยทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้นำต้นคริสต์มาสความสูงเกือบ 10 เมตร ไปติดตั้งไว้บริเวณถนนคนเดิน ย่านดาวทาวน์กลางเมืองหาดใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาส และให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองหาดใหญ่ ได้ร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันอย่างมีความสุข ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต่างพากันไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ขณะที่ภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ อ.หาดใหญ่ นั้น มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 70 เนื่องจากตรงกับช่วงปิดเทอมของประเทศมาเลเซีย ทำให้ทั้งวันปกติและช่วงสุดสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

เทศบาลนครหาดใหญ่ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอเชิญชมเทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ครั้งที่ 7 (Hatyai Lantern Festival) ภายใต้ความสวยงามของ “สีแสงแห่งวัฒนธรรม”

เทศบาลนครหาดใหญ่ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอเชิญชมเทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ครั้งที่ 7 (Hatyai Lantern Festival) ภายใต้ความสวยงามของ "สีแสงแห่งวัฒนธรรม"

เทศบาลนครหาดใหญ่ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานเทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้ครั้งที่ 7(Hatyai Lantern Festival) ภายใต้ความสวยงามของ"สีแสงแห่งวัฒนธรรม" พร้อมกับสุดยอดการแสดงประติมากรรมโคมไฟน้ำแข็งฝีมือช่างระดับโลกจากเมืองฮาร์บิน"หาดใหญ่ไอซ์โดม" Hatyai Icedome season 4

โดยการจัดแสดงเทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ ครั้งที่ 7 (Hatyai Lantern Festival) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2555 - 30 เมษายน2556 โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 - 21.00 น. ณ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดให้ ชมฟรี พื้นที่จัดแสดงเริ่มต้นจากบริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่5 จนถึงบริเวณเชิงสะพานศาลากลางน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นการจัดโซนการแสดงในพื้นที่ใหม่ เพื่อรองรับการนำเสนอโคมไฟสีสันในหลากหลายรูปแบบที่แปลกตากว่าในทุกๆ ปีที่ผ่านมา อาทิ การแสดงโคมสีโคมไฟสไตล์จื้อกง โคมไฟสไตล์จีน โคมไฟสไตล์ญี่ปุ่น และโคมไฟสไตล์อิตาลี ซึ่งแบ่งการจัดแสดงในรูปแบบต่างๆ อาทิ ซุ้มประตูมังกรสวรรค์ , ปิรามิตแห่งคชสาร , มั่งมีศรีสุข เหลือกินเหลือใช้(ปลาหลีฮืออัน) , บุตรมังกรทั้ง9 , ฮกลกซิ่วเทพเจ้าแห่งความสมบูรณ์ , โคมร้อยสกุลแซ่ , หิมพานต์เหรา(พญานาคมีขา) ,พระพิฆเนศวร ,กวนอิมข้ามสมุทร , รถม้าแห้งเทพ ฯลฯ

นอกจากนั้น ยังมีอีกหนึ่งความสวยงามของสีสันแห่งโคมไฟ ภายใต้อุณหภูมิติดลบ15°c กับเทศกาลโคมไฟน้ำแข็ง "หาดใหญ่ไอซ์โดม Hatyai Ice Dome Season 4" ที่กลับมาพร้อมความมหัศจรรย์แห่งโลกน้ำแข็งที่ยกฮาร์บิ้นมาสู่สายตาชาวไทยอีกครั้ง กับผลงานการแกะสลัก ของช่างจีนกว่า 30 ชีวิต ที่จัดแสดงผลงานอันสะท้อนถึงจินตนาการ ภายใต้สีสันของก้อนน้ำแข็งรูปแบบต่างๆ อันสื่อถึงสัมพันธภาพของกลุ่มอาเซียน ความสวยงามของโลกใต้ทะเล โลกของเด็ก และโลกแห่งยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งจะจัดแสดงทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2555 – 31 สิงหาคม 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อาคารจัดแสดง Hatyai Ice dome สวนสาธารณะเทศบาล นครหาดใหญ่ ที่เดียวที่ทุกท่านจะได้พบกับความตื่นตาตื่นใจของโคมไฟน้ำแข็งหลากหลาย รูปแบบสุดอลังการที่เดียวในประเทศไทย อีกทั้งทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้จัดให้มีสัญลักษณ์ หงส์คู่มังกร เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ กับสัญลักษณ์คู่ของกษัตริย์อีกด้วย

และร่วมเต็มอิ่มไปกับความงามของประติมากรรมน้ำแข็งในพื้นที่กว่า 1,700 ตารางเมตร และชมความสวยงามของโคมไฟหลากสีสัน ในงาน เทศกาลโคมสีสันเมืองใต้ ครั้งที่ 7 และเทศกาลโคมไฟน้ำแข็ง Hatyai Ice Dome Season 4 ณ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ สวนแห่งความสุข

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่งานบริการข้อมูลข่าวสารทางท้องถิ่น (งานประชาสัมพันธ์) โทรศัพท์ 0-7420-0000

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ห่วงใยประชาชนในช่วงปีใหม่ เชิญชวนร้านค้า และประชาชนงดขาย งดดื่ม ในช่วงเทศกาลปีใหม่

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ห่วงใยประชาชนในช่วงปีใหม่ เชิญชวนร้านค้า และประชาชนงดขาย งดดื่ม ในช่วงเทศกาลปีใหม่

นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณนภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีการจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่และมักมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จากข้อมูลในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ของจังหวัดสงขลา พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และมีการมึนเมาสุรา โดยช่วงเวลากลางคืนจะเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ดังนั้นเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุจากการดื่มสุรา ทางศูนย์ป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 จังหวัดสงขลาได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลักและสายรอง เพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่รถทุกชนิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการตรวจวัดค่าความเร็ว และ การขับรถเคารพกฎจราจร ยาเสพติดและการพกพาอาวุธทุกชนิด นอกจากนี้ยังมีการตั้งด่านตรวจเพิ่มเติมบนเส้นทางในชุมชน และมีการตรวจสอบร้านค้าให้จำหน่ายสุราในเวลาที่กำหนดอย่างเข้มงวดในช่วง 7 วันระวังอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2555 จนถึงวันที่ 2 มกราคม 2556 ด้วย
นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณนภาใส ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือบุคคลที่มีอาการมึนเมาจนไม่สามารถครองสติได้ ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ให้ควบคุมเวลาจำหน่ายสุราตามกฎหมาย คือ เวลา 11.00 – 14.00 น. และ 17.00 – 24.00 น. และห้ามทำการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือส่งเสริมการขาย ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ขอเชิญชวนให้เลี้ยงฉลองปีใหม่ไร้แอลกอฮอล์ และในการขับรถเดินทางสัญจร ต้องเคารพกฎจราจร และมีน้ำใจต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ทุกครั้งต้องไร้แอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการมอบสิ่งที่ดีให้แก่ผู้ที่เคารพรักนับถือ หากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรศัพท์เรียกสายด่วนนเรนทร 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบริการรับ-ส่งผู้ป่วยจากจุดเกิดเหตุไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ขอเชิญพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมโครงการ “ชาวสงขลาร้อยดวงใจ ทำความดีบริจาคโลหิตถวายพ่อของแผ่นดิน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา”

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม / เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ขอเชิญพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมโครงการ "ชาวสงขลาร้อยดวงใจ ทำความดีบริจาคโลหิตถวายพ่อของแผ่นดิน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา"

นางขนิษฐา บุญราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ร่วมกับชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา กำหนดจัดโครงการ "ชาวสงขลาร้อยดวงใจ ทำความดีบริจาคโลหิตถวายพ่อของแผ่นดิน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา" เพื่อเชิญชวนประชาชนชาวสงขลาร่วมบริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ณ ตำหนักเขาน้อย(จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ในวันที่ 25 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-12.00 น. ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555

ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนพสกนิกรชาวงสงขลา เข้าร่วมโครงการดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานรับบริจาคโลหิต ดวงตาและอวัยวะ โทรศัพท์ 0-7432-3760 และ 0-7431-1136

เทศบาลตำบลกำแพงเพชรจัดแข่งขันแอโรบิคชิงถ้วยประทานทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

ข่าว สุวดี ศรีสมบูรณ์ / เทศบาลตำบลกำแพงเพชรจัดแข่งขันแอโรบิคชิงถ้วยประทานทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

นายประเสริฐ แซ่แต้ นายกเทศมนตรีตำบลกำแพงเพชร ขอเชิญเข้าร่วมการแข่งขันแอโรบิคเพื่อสุขภาพ ครั้งที่ 9 ประจำปี พ.ศ.2556ประเภทเยาวชนทั่วไป (อายุ 15 ปี ขึ้นไป) ชิงถ้วยประทานทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี โดยจะจัดการแข่งขันในวันเสาร์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 ณ เวทีภายในสนามกีฬากลางเทศบาลตำบลกำแพงเพชร เพื่อสร้างกระแสและส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิค เพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นและส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด ผู้ที่สนใจสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึง วันที่ 23 มกราคม 2556 และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอระเบียบการแข่งขันได้ที่ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โทรศัพท์ 0-7438-9020 ต่อ 27 , 08-6963-1658 , 08-1276-6570

ต้นสนขนาดใหญ่ริมทะเลบ้านเกาะแต้ว ถูกคลื่นซัดล้มเพิ่มและกำลังจะล้มอีกหลายต้น เหตุคลื่นลมแรง ขณะที่อุตุฯใต้ออกประกาศเตือนต่อเนื่อง ฉ.9

ข่าว สันติภาพ รามสูต / ต้นสนขนาดใหญ่ริมทะเลบ้านเกาะแต้ว ถูกคลื่นซัดล้มเพิ่มและกำลังจะล้มอีกหลายต้น เหตุคลื่นลมแรง ขณะที่อุตุฯใต้ออกประกาศเตือนต่อเนื่อง ฉ.9

จากกรณีที่มีสภาพคลื่นลมมีกำลังแรง ในช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ ในระยะนี้และคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ส่งผลให้ต้นสนขนาดใหญ่ที่อยู่ริมชายหาดล้มระเนระนาดหลายต้น และยังมีต้นสนที่อยู่ในสภาพกำลังที่จะล้มอีกเช่นเดียวกัน เนื่องจากคลื่นได้ซัดดินใต้ต้นออกไปหมดเหลือเพียงแต่รากเท่านั้นและรอวันล้มและ หากสภาพคลื่นลมยังมีความแรงจัด ต้นสนก็จะล้มเพิ่มอีกไปเรื่อยๆ เหตุเพราะบริเวณชายฝั่งไม่มีเขื่อนป้องกันคลื่น ทำให้คลื่นซัดเข้าหาฝั่งกัดเซาะชายฝั่งและต้นสนล้ม

ในวันนี้ ที่ 24 ธันวาคม 2555 ต้นสนขนาดใหญ่ ป่าสนริมทะเลบ้านเกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ยังคงถูกคลื่นซัดล้มเพิ่มอีกและกำลังจะล้มเพิ่มอีกหลายต้น เหตุเพราะคลื่นลมที่มีกำลังแรงกัดเซาะชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ต้นสนไม่สามารถต้านทานแรงคลื่นกัดเซาะชายฝั่งได้ก็ต้องลมโค่นลงมา หากสภาพอากาศในช่วงนี้ คลื่นลมยังไม่ลดความรุนแรงลง ผลกระทบที่ตามมา ป่าสนบริเวณแนวชายฝั่งบ้านเกาะแต้วก็จะต้องถูกคลื่นลมแรงกัดเซาะโค่นล้มลงไปทุกวัน

ทางด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ประกาศเตือน ฉบับที่ 9 (41/ 2555) เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทยและฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงมามีฝนหนาแน่นและมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค.นี้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือ
ด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-26 ธ.ค.55

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

จังหวัดสงขลา จัดประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้างเจดีย์หลวงปู่ทวดด่านพรหมแดนประกอบ ภายใต้โครงการท่องเที่ยว “ตามรอยหลวงปู่ทวด” เตรียมเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใหม่รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ข่าว สุวดี ศรีสมบูรณ์ ภาพ เกียรติศักดิ์ พันธุ์กา / จังหวัดสงขลาจัดประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้างเจดีย์หลวงปู่ทวดด่านพรหมแดนประกอบ ภายใต้โครงการท่องเที่ยว "ตามรอยหลวงปู่ทวด" เตรียมเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใหม่รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

วันนี้(21ธ.ค.55) เวลา 14.00 น. ที่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานการประชุมผู้เกี่ยวข้องโครงการก่อสร้างเจดีย์หลวงปู่ทวดด่านพรหมแดนประกอบ ครั้งที่ 1/2555 บริเวณด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา ภายใต้โครงการท่องเที่ยว "ตามรอยหลวงปู่ทวด" ตามแผนงาน IMT-GT โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม จำนวนกว่า 20 คน จากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ด่านศุลกากรบ้านประกอบ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา ฯลฯ

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สมเด็จเจ้าราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือ หลวงปู่ทวด เป็นอริยสงฆ์ที่มีชีวิตในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ยังได้รับความเคารพและศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาได้ประสานงานมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอขอให้ร่วมประชุมหารือเพื่อหาพื้นที่ในการก่อสร้างเจดีย์หลวงปู่ทวด ณ บริเวณด่านปะกอบ หมู่ที่ 3 ต.ด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา โดยได้ลงสำรสจพื้นที่ร่วมกับคณะผู้แทนจากสำนักงานจังหวัดสงขลา นายอำเภออำเภอนาทวี ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลประกอบ และผู้แทนด่านศุลกากรสะเดา ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ด่านบ้านประกอบ ได้ข้อสรุปตรงกันในการขอใช้พื้นที่บริเวณด่านประกอบ เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ในการก่อสร้างเจดีย์หลวงปู่ทวด

สำหรับการก่อสร้างในครั้งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการสักการะบูชาหลวงปู่ทวด เป็นการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อันจะนำไปสู่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ IMT-GT รวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้กราบไหว้สักการะบูชา เพื่อเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใหม่รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมาถึงในปี 2558 พร้อมทั้งเป็นโอกาสดีในการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน ซึ่งในอดีตเส้นทางดังกล่าวเคยเป็นเส้นทางเคลื่อนศพหลวงปู่ทวด ซึ่งได้ละสังขาร ณ รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย โดยใช้เส้นทางบ้านประกอบเป็นที่พักศพก่อนจะเดินทางไปยังวัดช้างให้ จ.ปัตตานี เพื่อปลงศพหลวงปู่ทวดอีกด้วย

สธ.สงขลาร่วมกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการโรงพยาบาลหาดใหญ่และหน่วยงานในสังกัดเตรียมช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเชิญชวนประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร.

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม / สธ.สงขลาร่วมกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการโรงพยาบาลหาดใหญ่และหน่วยงานในสังกัดเตรียมช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเชิญชวนประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร.

นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณนภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูงกว่าปกติ เนื่องจากมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันและเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ประกอบกับมีการเลี้ยงสังสรรค์และท่องเที่ยว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนสูงกว่าปกติ จากรายงานอุบัติเหตุจราจรของจังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2554 – 4 มกราคม2555 มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้น 73 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 77 ราย ผู้เสียชีวิต 11 ราย ในปี 2556 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา จึงได้จัดทำแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุบัติเหตุ พร้อมทั้งบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยใช้สโลแกน "ก้าวสู่ปีใหม่อย่างปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ" โอกาสนี้ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลดอุบัติเหตุทางท้องถนน ด้วยการใช้มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. ได้แก่ เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซด์ปลอดภัยโดยไม่ดัดแปลงให้เกิดอันตราย มีใบขับขี่ รัดเข็มขัดนิรภัย และขับขี่ด้วยความเร็วตามกำหนด รวมถึงการไม่แซงในที่คับขัน ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร และไม่โทรศัพท์ขณะขับขี่รถ หากพบเห็นผู้ประสบเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรศัพท์ขอรับการช่วยเหลือได้ทาง โทรศัพท์ หมายเลข 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ปภ.สงขลา เตรียมแผนป้องกันลดอุบัติเหตุสัญจรปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 หวังลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ สุวดี ศรีสมบูรณ์ / ปภ.สงขลา เตรียมแผนป้องกันลดอุบัติเหตุสัญจรปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 หวังลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์

นายโส เหมกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา(ปภ.สงขลา) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาว พี่น้องประชาชนจะเดินทางไปท่องเที่ยวและเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลและจังหวัดสงขลามีความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชนในช่วงเทศกาลดังกล่าวเป็นอย่างมาก ทางจังหวัดสงขลาจึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนขึ้น โดยจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัดและจุดอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทาง จำนวน 33 จุด ทั่วทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2555 – 2 มกราคม 2556 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นที่มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. คือ เมาไม่ขับ , สวมหมวกนิรภัย , มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย , มีใบขับขี่ , รัดเข็มขัดนิรภัย และไม่ขับรถเร็ว ควบคู่กับ 6 มาตรการหลัก ประกอบด้วย มาตรการให้ผู้บริหารมีส่วนร่วมในการดูแล , มาตรการจุดตรวจสายหลักและสายรอง โดยขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งจุดตรวจเพิ่มในแต่ละหมู่บ้าน , มาตรการวิศวกรรมจราจรในการซ่อมแซมสัญญาณไฟ-ป้ายบอกทางต่างๆ , มาตรการป้องปรามตักเตือน , มาตรการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน และมาตรการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ตลอด 24 ชม.

ทั้งนี้ ทางปภ.สงขลา ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการตรวจสอบยานพาหนะ และตรวจสอบร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะเรื่องการเมาไม่ขับ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาในการเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่จุดตรวจต่างๆ หรือที่ ปภ.สงขลา โทรศัพท์ 0-7431-6380 หรือ สายด่วน 1784 ทางเจ้าหน้าที่พร้อมอำนวยความสะดวกและพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ตลอด 24 ชั่วโมง

อุตุฯใต้ออกประกาศเตือนต่อเนื่องฉบับที่ 5 เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทยและฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม / อุตุฯใต้ออกประกาศเตือนต่อเนื่องฉบับที่ 5 เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทยและฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผยว่า ทางศูนย์ฯได้ออกประกาศเตือนต่อเนื่อง ฉบับที่ 5 (37/ 2555) เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทยและฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง และอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ระหว่างวันที่ 21-25 ธ.ค.นี้ สำหรับบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงมามีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากฝนหนัก และคลื่นที่อาจกัดเซาะชายฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จะแผ่เสริมลงมามีอิทธิพลต่อลักษณะอากาศของภาคใต้ตั้งแต่ช่วงวันที่ 23 ธ.ค. 55 ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยจะยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง

สอบถามรายะเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก โทรศัพท์ 0-7431-1760 โทรสาร 0-7431-1065 หรือเข้าชมข้อมูลได้ที่ www.songkhla.tmd.go.th และ www.songkhlamet.org

สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ศาลจังหวัดสงขลา ร่วมกับศาลรัฐธรรมนูญ จัดอบรมโครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรตามรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนในจังหวัดสงขลา

ข่าว สุวดี ศรีสมบูรณ์ ภาพ เกียรติศักดิ์พันธุ์กา / สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ศาลจังหวัดสงขลา ร่วมกับศาลรัฐธรรมนูญ จัดอบรมโครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรตามรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนในจังหวัดสงขลา

วันนี้(21ธ.ค.55) เวลา 09.30 น. ที่ โรงแรม บี.พี.สมิหลา บีชฯ อ.เมือง จ.สงขลา นายสมบูรณ์ วัฒนมงคล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรตามรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนในจังหวัดสงขลาเรื่อง "รัฐธรรมนูญกับประชาชน" โดยมี นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ

นายสมบูรณ์ วัฒนพรมงคล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 กล่าวว่า ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ส่วนที่ 5 แนวนโยบายด้านกฎหมายและการยุติธรรมวางหลักการไว้ว่า รัฐต้องดำเนินการส่งเสริมให้ความช่วยเหลือ และให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง และตามแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ที่ 4 เรื่อง การพัฒนาศักยภาพการอำนวยความสะดวกและการให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาล และบริการชุมชนแห่งการเรียนรู้ เพื่อตอบสนองแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ด้านกฎหมายและการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ และเพื่อดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของศาลยุติธรรม เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจถึงกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ในเรื่องสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และมีความเข้าใจเรื่องการติดต่อศาลยุติธรรม ประกอบกับในวันที่ 21 ธันวาคม 2555 เป็นวันครบรอบ 25 ปี อาคารที่ทำการศาลจังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงเปิดอาคารดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2530

ดังนั้น สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ศาลจังหวัดสงขลา จึงได้ร่วมกับศาลรัฐธรรมนูญจัดการอบรมในครั้งนี้ขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวนกว่า 600 คน อาทิ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา และคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดในจังหวัดสงขลา

การอบรมในวันนี้ได้รับเกียรติจากนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ "เรื่องเล่าจากศาลรัฐธรรมนูญ" อีกด้วย

สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)