วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลสงขลา เปิดโครงการ “ร่วมแรงต้านภัยบุหรี่ วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2555”

ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / เปิดโครงการ "ร่วมแรงต้านภัยบุหรี่ วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2555" เพื่อสร้างกระแสเตือนภัยอันตรายของบุหรี่ให้ประชาชนชาวสงขลาได้รับทราบทั่วกัน ตลอดจนร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและสถานที่ราชการ วันนี้ (31 พ.ค. 55) ที่ ลานอาคารผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลเมืองสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายแพทย์ไพฑูรย์ พัฒนานิจนิรันดร รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการ "ร่วมแรงต้านภัยบุหรี่ วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2555" ซึ่งจัอขึ้นโดยคณะกรรมการเครือข่ายสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ โรงพยาบาลสงขลา เนื่องจากองค์การอนามัยโลก ได้กำหนดวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันงดสุบบุหรี่โลก ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศตระหนักถึงอันตรายและความสูญเสียทางด้าน สุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม ในปีนี้องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ไว้ว่า "Tobacco industry interference" หมายถึง การแทรกแซงโดยอุตสาหกรรมยาสูบ และคำขวัญของกระทรวงสาธารณสุขในปีนี้ คือ "จับตาเฝ้าระวัง ยับยั้งอุตสาหกรรมยาสูบ" คือ ให้ทุกภาคส่วนของสังคมเฝ้าระวังการแทรกแซงธุรกิจยาสูบ รู้ถึงผลกระทบในทางลบที่เกิดจากการไปร่วมกิจกรรมกับธุรกิจยาสูบ และเพื่อสร้างกระแสเตือนภัยอันตรายของบุหรี่ให้ประชาชนชาวสงขลาได้รับทราบทั่วกัน ตลอดจนร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและสถานที่ ราชการ จากรายงานการสำรวจของคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ พบว่าประเทศไทย มีผู้สูบบุหรี่ราว 12.5 ล้านคน อยู่ในภาคอีสานมากที่สุด ร้อยละ 33.6 หรือ 4.2 ล้านคน รองลงมาเป็นภาคกลาง ร้อยละ 23.2 หรือราว 2.9 ล้านคน ตามด้วยภาคเหนือ ร้อยละ 17.6 ล้านคน หรือ 2.2 ล้านคน ภาคใต้ ร้อยละ 16 หรือ 2 ล้านคน และในกทม. พบร้อยละ 8 หรือเท่ากับ 1 ล้านคน ผลจากการสูบบุหรี่ทำให้คนไทยเสียชีวิต จำนวน 48,244 คนต่อปี ซึ่งบุหรี่ทำให้คนไทยในจำนวนนี้ป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งมากที่สุด ร้อยละ 37.4 ตามด้วยโรคทางเดินหาย ร้อยละ 29.9 โรคหัวใจและหลอดเลือด ร้อยละ 22.6 และโรคอื่นๆ ร้อยละ 9.9 นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนไทย 14,204 คน จากจำนวนผู้เสียชีวิต 48,244 คนต่อปีนั้น เสียชีวิตก่อนวัย 60 ปี แสดงให้เห็นว่า การสูบบุหรี่ทำให้คนไทยที่สูบอายุสั้นลงเฉลี่ย 12.1 ปี อย่างไรก็ตามผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่แต่รับควันบุหรี่มือสองก็มีความเสี่ยงป่วยด้วยโรคหัวใจ ร้อยละ 25-30 และเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด ร้อยละ 20-30 ที่สำคัญ มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่าไม่มีระดับที่ปลอดภัยในการได้รับควันบุหรี่มือสองแถมการสูดควันบุหรี่มือสองแม้ในระยะเวลาสั้นๆ ส่งผลให้เกล็ดเลือดเกาะตัวกันง่ายขึ้น ทำให้เลือดข้นขึ้น ทำลายผนังบุหลอดเลือด หัวใจเต้นแรงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวาย ก่อความระคายเคืองและทำลายเยื่อบุผนังทางเดินหายใจ ระบบทางเดินหายใจของคนสุขภาพดีเกิดปฏิกิริยาอักเสบ และทำให้คนเป็นโรคหอบหืดจับหืดบ่อยและรุนแรงยิ่งขึ้นดังนั้น เพื่อสร้างกระแสเตือนภัยอันตรายของบุหรี่ ให้ประชาชนชาวสงขลาได้รับทราบทั่วกัน ตลอดจนร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและสถานที่ ราชการ ผู้ที่เข้าร่วมรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ในวันนี้ประกอบด้วย คณะแพทย์พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสงขลา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนศิริพงศ์วิทยา คณะอาจารย์และนักศึกษาจากโรงเรียนบริหารธุรกิจวิทยาคณะอาจารย์และนักศึกษา จากวิทยาลัยบรมราชชนนี สงขลา อาสาสาสมัครสาธารณสุข จากเทศบาลนครสงขลา เทศบาลเมืองเขารูปช้าง และเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารปฐมภูมิเครือข่าย โรงพยาบาลสงขลา รวมทั้งสิ้น 8 องค์กร จำนวน 250 คน นายแพทย์วรชัย จึงตระกูล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลสงขลา กล่าวว่ากิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การติดสติ๊กเกอร์เตือนภัยบุหรี่และห้ามสูบบุหรี่ ในรถโดยสารที่วิ่งผ่านหน้าโรงพยาบาลเมืองสงขลา หน้าร้านค้า ร้านอาหาร ในบริเวณตลาดทรัพย์สินพล่าซ่า สงขลา แจกเอกสาร และการเดินรณรงค์งดสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ บริเวณตลาดทรัพย์สินพล่าซ่า ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นการร่วมกันระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันในการต่อต้านการสูบบุหรี่ในสาธารณะ

Read more...

นายกอบต.เกาะยอ เปิดโครงการ “จิตรอาสา ร่วมใจพัมนา รักษ์สิ่งแวดล้อม” และรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. 55

ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / วันนี้ (31 พ.ค. 55) ที่ วัดแหลมพ้อ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา นายคำรพ เสาวคนธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ เป็นประธานเปิดโครงการ "จิตอาสา ร่วมใจพัฒนา รักษ์สิ่งแวดล้อม" และรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2555 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา โดยกลุ่มอำเภอ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอเมืองสงขลา รัตภูมิ ควนเนียงและบางกล่ำ ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดี และกระตุ้นให้ทุกคนร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ธรรมชาติ การลดใช้พลังงานเพื่อลดโลกร้อน การรณรงค์ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2555 ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความรัก ความสามัคคีแก่หมู่คณะ เกิดองค์กรแห่งการเสียสละและสร้างจิตอาสาที่เป็นต้นแบบในการพัฒนาอย่างต่อ เนื่องและยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 200 คน นาง อุไรพร จันทะโน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านสวนทุเรียน กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้มีการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพระหว่างวัดแหลมพ้อ วัดโคกเปี้ยว วัดท้ายยอ ต.เกาะยอ ระยะทางไปกลับ 12 กิโลเมตร การปล่อยพันธุ์ปลาลงในทะเลสาบสงขลา การปลูกต้นไม้ภายในบริเวณวัด การทำบุญถวายสังฆทานและบริจาคเงินสมทบทุนทำนุบำรุงศาสนา กิจกรรมรณรงค์ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี

Read more...

เกิดเหตุรถของหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ชนต้นไม้ ถ.สายเอเชีย บาดเจ็บ 5 คน สาเหตุคาดหลับใน

ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ขับรถแวนชนต้นไม้ริมถนนสายเอเชียพังยับ บาดเจ็บยกครัว 5 คน ลูกสาวอายุประมาณ 1 ขวบ รอดปาฎิหารย์ไม่มีแม้รอยขีดข่วนคาดแม่ใช้ร่างอุ้มบังเอาไว้ วันนี้ (31 พ.ค. 55) ร.ต.อ.สุเทพ ฉุ้นประดับ ร้อยเวร สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนต้นไม้บริเวณริมถนนสายเอเชียฝั่งขาเข้า อ.หาดใหญ่ พื้นที่หมู่ 14 บ้านโคกเมา ต. ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรุดไปตรวจสอบพบรถแวนยี่ห้ออีซูซุ รุ่นแอดแวนเจอร์ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 5ษ-9010 กรุงเทพมหานคร ชนติดอยู่กับต้นไม้ริมถนนสภาพพังยับเยินทั้งคัน โดยมีผู้บาดเจ็บจำนวน 5 คน ประกอบด้วย ส.ต.อ.ธีระศักดิ์ ขวัญคง 35 ปี ผู้บังคับหมู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส นางพรรณธิชา ขวัญคง อายุ 26 ปี ภรรยา น.ส.เสาวนีย์ ชีนะ อายุ19 ปี น้องภรรยา และนายจรัล ชีนะ อายุ 54 ปี พ่อตา โดยทั้งสี่คนอาการสาหัส ส่วน ด.ญ.พิชญาภรณ์ ขวัญคง อายุ 10 เดือน ซึ่งเป็นลูกสาวของ ส.ต.อ.ธีระศักดิ์ ปลอดภัยและรอดมาได้อย่างปาฎิหารย์ไม่มีแม้รอยขีดข่วนใดๆ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ เทศบาลเมืองคลองแหและเทศบาลเมืองควนลังได้ช่วยลำเลียงทั้ง 5 คนส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ จากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุ ส.ต.ท.ธีระศักดิ์ และครอบครัวทั้ง 5 คน เดินทางมาจากบ้านในพื้นที่ จ.พัทลุง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่าน่าจะหลับในเนื่องจากเป็นทางตรงไม่มีรอยเบรก และรถได้พุ่งลงข้างทางไปชนต้นไม้ใหญ่ขาด 1 ต้น และตัวรถยังไปกระแทกอัดติดอยู่กับต้นไม้อีก 1 ต้น โดย ส.ต.ท.ธีระศักดิ์และพ่อตาที่นั้งอยู่ด้านหน้ากระเด็นหลุดออกจากตัวรถ ส่วนภรรยาน้องสาวภรรยาและลูกสาวติดอยู่ในตัวรถ โดยเฉพาะลูกสาวอายุประมาณ 1 ขวบ ซึ่งรอดมาได้อย่างปาฎิหารย์ไม่มีแม้รอยขีดข่วนใดๆ คาดว่าแม่น่าจะอุ้มไว้ในอ้อมอกและขณะเกิดเหตุได้เอาตัวบังไว้จึงปลอดภัย

Read more...

เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระพงขาว ต.เกาะยอ ประสบปัญหาปลาไม่กินอาหาร เหตุจากน้ำในกระชังแห้งกว่าทุกปี และโรงงานปล่อยน้ำเสียลงทะเล

ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ต.เกาะยอ ฝั่งตะวันออก 2 หมู่บ้าน ประสบปัญหาช่วงน้ำลงในทะเลสาบสงขลา ปีนี้น้ำจะแห้งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ปลากะพงขาวที่เลี้ยงไม่กินอาหาร ต้องเลื่อนการให้อาหารไปจนกว่าน้ำจะขึ้น อีกทั้งยังต้องประสบปัญหาน้ำเสียจากโรงงานที่ลักลอบปล่อยลงทะเลสาบสงขลา ส่งผลต่อการเลี้ยงปลากะพงขาวโดยรอบเกาะยอด้วย เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สงขลา ณ วันนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ฝั่งตะวันออก 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 รวมกว่า 150 กระชัง กำลังประสบปัญหาในช่วงน้ำลง น้ำในทะเลสาบสงขลาลดลงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำ ให้กระชังที่เลี้ยงปลากะพงขาว ซึ่งเป็นกระชังแบบปักอยู่กับที่และมีสะพานทอดยาวลงไปในทะเล น้ำจะแห้ง เมื่อช่วงน้ำลง ความสูงของน้ำทะเลในกระชังเลี้ยงปลาจะมีระดับน้ำประมาณแค่ 40-50 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถจะให้อาหารปลาได้ เนื่องจากปลาจะไม่กินอาหาร โดยจะต้องรอให้น้ำขึ้นเสียก่อนจึงจะให้อาหารได้ ในขณะเดียวกันในช่วงน้ำลงน้ำจะไหลออกไปสู่ปากร่องทะเลสาบสงขลาไปสู่ทะเล โรงงานอุตสาหกรรมก็จะฉวยโอกาสปล่อยน้ำเสียลงลำคลองที่เชื่อมต่อลงทะเลสาบสงขลา ทั้งคลองวง คลองอูตะเภา ซึ่งน้ำเสียเหล่านี้จะไหลผ่านลงมาทางเกาะยอ ซึ่งผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังโดยรอบเกาะยอก็จะได้รับผลกระทบจากน้ำเสียจากโรงงาน ซึ่งบางจุดที่ไม่ได้เตรียมการณ์ป้องกันไว้ปลาก็จะทยอยตาย บางแห่งที่มีเครื่องให้อ๊อกซิเจนก็จะเดินเครื่องเพื่อไล่น้ำเสียออกจากกระชัง นายพานิชย์ อุบล อายุ 64 ปี หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง หมู่ที่ 2 ต.เกาะยอ เปิดเผยว่า ในช่วงน้ำลงเราให้อาหารไม่ได้ ต้องรอน้ำขึ้น เพราะปลามันไม่กินอาหารเวลาน้ำลง ระดับน้ำบริเวณนี้ประมาณ 80-90 เซนติเมตร ช่วงนี้น้ำลงเยอะ สาเหตุจากลมมรสุมน้ำจะแห้งมาก ส่วนจะย้ายกระชังให้ออกไปในที่ลึกก็ไม่สามารถย้ายได้ เพราะพื้นที่ตรงนี้มันเป็นสันดอน ถ้าเราเลือกที่ลึกมันก็ไกลบ้าน มันไปดูแลไม่ได้ ปรกติเราจะให้อาหารวันละครั้งเดียววันเว้นวัน สำหรับในช่วงน้ำลงจะมีปัญหากับผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังไปทั่ว เนื่องจากบางครั้งทางโรงงานลักลอบปล่อยน้ำเสีย ก่อนที่น้ำจะขึ้นเพื่อล้างน้ำเสียออกไปก็หลายวันเป็นสัปดาห์ ถ้าไม่มีการปล่อยน้ำเสียปลามันก็อยู่ได้ ที่นี่เจอปัญหาการลักลอบปล่อยน้ำเสียบ่อยช่วงเวลาฝนตก น้ำมันไหลมาเมือกๆ คล้ายกับวุ้นเจอในน้ำมันมาเป็นสาย

Read more...

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชาวบ้านบางโทง ต.คูเต่า ใช้ชีวิตพอเพียงยึดอาชีพหลักทำเชือกกล้วยขาย สร้างรายได้เดือนละ 5,000 บาท

ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / นางเอียด ปลัดสิ คุณยายวัย 63 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บ้านบางโทง หมู่ 10 ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยึดอาชีพทำเชือกกล้วยขายมากว่า 40 ปี และเป็นหนึ่งอาชีพหลักของชาวบ้านบ้านบางโทงที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตและเป็นแหล่งผลิตเชือกกล้วย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีใน จ.สงขลา โดยในทุกๆ วัน หากฝนไม่ตกคุณยายเอียด จะออกไปตัดต้นกล้วยตานีที่ปลูกไว้ในแปลงปลูกบริเวณบ้าน โดยจะเลือกต้นที่ได้ขนาดอายุประมาณ 3 เดือน ตัดโคนและยอดให้เหลือเฉพาะลำต้นความยาวประมาณ 2 เมตร นำมาลอกเปลือกชั้นนอกออก ให้เหลือแต่เปลือกอ่อนชั้นใน และใช้มีดกรีดให้เป็นเส้นเล็กๆ กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร จากนั้นนำไปตากแดดเอาไว้อย่างน้อย 2-3 วัน เปลือกกล้วยจะแห้งกลายเป็นเชือกกล้วยที่มีเนื้อเหนียวทนทาน แล้วจึงนำมามัดรวมกัน มัดละ 5 กิโลกรัม นำไปขายได้กิโลกรัมละ 20 บาท โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้าน เพื่อเอาไปมัดสิ่งของต่างๆ โดยเฉพาะมัดผักบุ้งและข้าวต้มมัดซึ่งยังเป็นที่นิยมของตลาดเนื่องจากมีราคาถูกกว่าเชือกฝางและเนื้อเหนียวแข็งแรง ทำให้มีรายได้ในแต่ละเดือนประมาณ 5,000 บาท แม้จะไม่มากแต่ก็พออยู่พอกินเพียงแต่ลงแรงแต่ไม่ต้องลงทุน คุณยายเอียด บอกว่า ยึดอาชีพทำเชือกกล้วยขายเป็นอาชีพหลักมาตั้งแต่อายุ 15 ปี และเป็นอาชีพเดียวที่เลี้ยงดูและส่งเสียลูกๆ เรียนหนังสือ 10 คน และจะยึดอาชีพทำเชือกกล้วยต่อไปเพราะเป็นอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษของชาวบ้านบ้านบางโทง

Read more...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...