วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

ด่านพรมแดนสะเดาเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์เชื้อสายจีนที่แห่เข้ามาท่องเที่ยวและร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่ จ.สงขลา

ข่าว ทักษิณ อรุณ / ด่านพรมแดนสะเดาเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์เชื้อสายจีนที่แห่เข้ามาท่องเที่ยวและร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่ จ.สงขลา

วันนี้(31ม.ค.57) บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์เชื้อสายจีนที่เดินทางเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่จ.สงขลา จนล้นทะลักด่านพรมแดนและต้องต่อแถวผ่านแดนยาวเหยียด  และต้องเพิ่มช่องตรวจหนังสือผ่านแดนเต็มทุกช่องเพื่อระบายนักท่องเที่ยว โดยเป้าของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์มีทั้งที่ท่องเที่ยวที่บ้านด่านนอกชายแดนไทยมาเลเซีย และร่วมงาน Hatyai Chinese New Year Festival 2014 ที่อ.หาดใหญ่ซึ่งจะเริ่มในวันนี้เป็นวันแรกที่โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ รวมทั้งเดินทางต่อไปยังจังหวัดท่องเที่ยวฝั่งอันดามันและภาคใต้ตอนบน  ด้าน นายภาณุ วรมิตร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนของจ.สงขลาในปีนี้ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เป็นผลพวงมาจากเหตุระเบิดที่อ.สะเดาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้ยอดจองห้องพักและยอดนักท่องเที่ยวลดลงกว่าร้อยละ 30  เงินสะพัดทั้งเทศกาลไม่เกิน 50 ล้าน จากปกติที่ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

Read more...

ชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสงขลา นำธูปเทียนขนาดใหญ่ จุดบูชา “ไฉ่ซึ้งเอี้ย” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนหรือวันตรุษจีน

ข่าว สันติภาพ รามสูต / ชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสงขลา นำธูปเทียนขนาดใหญ่ จุดบูชา "ไฉ่ซึ้งเอี้ย" เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนหรือวันตรุษจีน 

เมื่อเวลา 23.00 น. - 00.59 น.ของคืนวันที่ 30 เข้าวันที่ 31 มกราคม 2557 ชาวจีนถือว่าเป็นเวลาฤกษ์ดีที่สุด ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่และเป็นวันตรุษจีนถือเป็นวันที่ 1 เดือน 1 ของชาวจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสงขลา ได้นำธูปเทียนขนาดใหญ่เดินทางมาที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถนนนางงาม อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อทำการกราบไหว้บูชาเทพเจ้า "ไฉ่ซึ้งเอี้ย" เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ชาวจีนถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา ที่ต้องบูชาเทพเจ้าองค์นี้เป็นองค์แรก ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เพื่อเพิ่มพลังในโชคชะตาให้มั่งคั่ง ร่ำรวยในปีใหม่ การจุดธูปเทียนขนาดใหญ่ ถือเป็นการจุดแสงสว่างในชีวิตให้มีความรุ่งโรจน์ สว่างไสวยืนนานในปีใหม่ ส่วนการจุดธูปขนาดเล็กเป็นการจุดเพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเองและครอบครัวและในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ถือเป็นวันเที่ยว ชาวจีนจะหยุดทำงานโดยพาครอบครัวไปท่องเที่ยวพักผ่อนเยี่ยมญาติ โดยจะพักผ่อนอย่างเต็มที่และใช้เงินใช้ทองที่หามาได้อย่างคุ้มค่า หลังจากการทำงานตรากตรำด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี

สำหรับวันตรุษจีนปีนี้ฤกษ์ดีที่สุด ตรงกับคืนวันที่ 30 เข้าวันที่ 31 มกราคม เวลาที่ใช้ไหว้คือเวลา 23.00-00.59 น.ซึ่งเป็นช่วงที่ฟ้าเปิด โดยปีนี้องค์ไท้ส่วย จะเสด็จมาทางทิศเหนือ เพื่อประทานพรโชคลาภ ความมั่งคั่ง ความร่ำรวยแก่ชาวจีนทุกคน ให้มีความสุข ความเจริญ มีโชคมีลาภเป็นสิริมงคล เนื่องในวันตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ในวันที่ 31 มกราคม 2557 โดยบริเวณถนนนางงาม อ.เมือง จ.สงขลา ชาวไทยเชื้อสายจีนได้ตั้งโต๊ะบูชาเทพเจ้า "ไฉ่ซึ้งเอี้ย"เทพเจ้าแห่งโชคลาภ บริเวณหน้าบ้านและตกแต่งกันอย่างสวยงาม โดยถวายผลไม้และของเงินของทอง ซึ่งมีความเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งโชคลาภจะดลบันดาลให้มีเงินมีทองใช้ตลอดปีใหม่

 

     

 

Read more...

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

เทศบาลเมืองเขารูปช้าง จัดพิธีเปิดโครงการป้องกันและระงับอัคคีภัยเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2557

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / เทศบาลเมืองเขารูปช้าง จัดพิธีเปิดโครงการป้องกันและระงับอัคคีภัยเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2557 สร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่       

      วันนี้ (30ม.ค.57) เวลา 09.00 น. ที่ ศูนย์ซ่อมเครื่องจักรกล อบจ.สงขลา ซ.15 ถ.กาญจนวนิช  ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ. สงขลา  นายประสงค์  บริรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการป้องกันและระงับอัคคีภัยเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2557 โดยมีบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน  นายประสงค์ บริรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง เปิดเผยว่า เนื่องจากวันที่ 31 มกราคม 2557  เป็นวันตรุษจีน โดยถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มักจะมีการทำพิธีไหว้เจ้า ทำบุญให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้  ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทและเป็นการเตรียมความพร้อมไว้รองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเทศกาลตรุษจีน เทศบาลเมืองเขารูปช้าง โดยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฝ่ายป้องกันและรักษาความสงบ สำนักปลัดเทศบาล จึงได้จัดโครงการป้องกันและระงับอัคคีภัยเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2557 ในครั้งนี้ขึ้น โดยเตรียมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิเจ้าหน้าที่จากงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งานรักษาความสงบอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน สมาชิกชมรมตำรวจชุมชนตำบลเขารูปช้าง ฯลฯ พร้อมรถดับเพลิง รถยนต์ตรวจการณ์ อุปกรณ์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกตรวจตราตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัย  เพื่อสร้างความมั่นใจ อบอุ่นใจในด้านความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่   สำหรับเทศบาลเมืองเขารูปช้าง มีพื้นที่รับผิดชอบมากถึง 27.49 ตารางกิโลเมตร หรือ 17,181 ไร่ มีประชากรประมาณ 38,496 คน จำนวน 16,155 ครัวเรือน 10 หมู่บ้าน อาจทำให้การป้องกัน และระงับอัคคีภัยไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ จึงได้จัดให้มีการเตรียมความพร้อมป้องกัน และระงับอัคคีภัยเนื่องในเทศกาลวันตรุษจีนเป็นกรณีพิเศษ จำนวน 4 วัน คือ ในระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์  2557 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากพบเห็นอัคคีภัยหรือภัยอื่นโทรศัพท์แจ้งได้ที่ สายด่วน 1669 หรือ 0-7433-6795                                                                   

 

Read more...

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

การแข่งขันฟุตบอลโค้กคัพ ครั้งที่ 17 (เหย้า-เยือน) สโมสรสงขลายูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / การแข่งขันฟุตบอลโค้กคัพ ครั้งที่ 17 (เหย้า-เยือน) สโมสรสงขลายูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

วันนี้(28ม.ค.57) เวลา 16.00 น. ที่ สนามกีฬาติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา  จัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลโค้กคัพ ครั้งที่ 17 (เหย้า-เยือน) โดยความร่วมมือของการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย  สำหรับการแข่งขัน "โค้ก คัพ" ครั้งที่ 17 ประจำปี 2555-2556 รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี  คัดเลือกภาคใต้ โดยจัดการแข่งขันแข่งขันระหว่างวันที่ 18-24 ธันวาคม 2556 ที่ จ.ชุมพร และได้ทีมที่เป็นตัวแทนภาคใต้ ได้แก่ สโมสรสงขลายูไนเต็ด (วัวชนแดนใต้ จูเนียร์)  ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโค้กคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะเตะแบบเหย้าและเยือน โดยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องออกไปเยือนสงขลา ยูไนเต็ด , ขณะที่นครสวรรค์ เอฟซี พบ สุพรรณบุรี เอฟซี, หนองบัวลำภู เอฟซี พบ เชียงราย ยูไนเต็ด และพัทยา ยูไนเต็ด พบ บีอีซี เทโรศาสน  นัดแรกเตะวันที่ 17-21 ม.ค.57  นัดที่ 2 เตะในวันที่ 24-28 ม.ค.57 ทีมที่ชนะจะผ่านเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 4 และ 7 ก.พ.57 ที่สนามเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และนัดชิงชนะเลิศจะทำการแข่งขันในวันที่ 16 ก.พ.57 ที่สนามเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด    การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโค้กคัพ ครั้งที่ 17 จะเป็นการชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านบาท โดยทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมกับได้สิทธิเดินทางไปแข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับสโมสรจูบิโล อิวาตะ ทีมในระดับเจลีก ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ส่วนทีมรองชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท

 

                                                                                                            


Read more...

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะหนใต้ มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น

ข่าว-ภาพ สุธิดา พฤกษ์อุดม / สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะหนใต้ มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น

วันนี้(28ม.ค.57)  เวลา 13.30  น. ณ  อุโบสถวัดแหลมทราย ต.บ่อยาง  อ.เมือง  จ.สงขลา  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้จัดพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ประจำปี 2556 แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะหนใต้ จำนวน 131 รูป จาก 14 จังหวัดภาคใต้  โดยมี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์  ผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  และ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  มีหัวหน้าส่วนราชการและพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2556 มหาเถรสมาคมได้พิจารณาคัดเลือกพระสงฆ์ผู้มีผลงานดีเด่นในด้านการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ การสาธารณประโยชน์ และการศึกษาสงเคราะห์ แล้วมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการ ขอพระราชทานสมณศักดิ์ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสถาปนา เลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ถวายแด่พระสงฆ์ เป็นพระราชาคณะ จำนวน 71 รูป เป็นพระครูสัญญาบัตร จำนวน 1,106 รูป และมีพระบรมราชานุญาตให้เลื่อนชั้นพระครูสัญญาบัตร จำนวน 892 รูป และทรงตั้งประทวนสมณศักดิ์ จำนวน 3 รูป รวมพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในโอกาสนี้ จำนวน 2,072 รูป  ซึ่งวันนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นิมนต์พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ตั้งใหม่ จำนวน 66 รูป ได้รับเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ จำนวน 57 รูป รวม 123 รูป มาเข้ารับสัญญาบัตร พัดยศฯ  ทั้งนี้  มีพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ จำนวน 2 รูป ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จำนวน 2 รูป และเจ้าคณะตำบล จำนวน 4 รูป รวม 8 รูป มีความประสงค์ขอเข้ารับพัดยศให้ตรงกับตำแหน่งในพิธีนี้ด้วย

 

 


Read more...

ร้านจำหน่ายสินค้าตรุษจีนเขตเทศบาลนครสงขลา ลงทุนกว่า 30,000 บาท ตกแต่งร้านสร้างจุดขาย รับเทศกาลตรุษจีน

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / ร้านจำหน่ายสินค้าตรุษจีนเขตเทศบาลนครสงขลา ลงทุนกว่า 30,000 บาท ตกแต่งร้านสร้างจุดขาย รับเทศกาลตรุษจีน

วันนี้ (28 ม.ค.57) นายธนพงศ์ ชัยหิรัญวงศ์ เจ้าของร้านบุญมาพานิช ร้านจำหน่ายของประดับและของไหว้พระตรุษจีนในเขตเทศบาลนครสงขลา เปิดเผยว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ตนจึงได้คิดกลยุทธ์สร้างจุดขายที่แปลกใหม่ให้กับร้าน โดยลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 30,000 บาท ในการตกแต่งร้านอย่างสวยงาม ทั้งการติดโคมไฟ -ป้ายอวยพรภาษาจีน การใช้ไฟเลเซอร์ จำนวนถึง 6 ตัว ในการส่องแสงระยิบระยับไปที่ตัวสินค้า  พร้อมเปิดเพลงจีน เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีนตลอดทั้งวัน เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าชาวไทยเชื้อสายจีนให้มาซื้อของประดับบ้านและของไหว้พระ  นายธนพงศ์ ชัยหิรัญวงศ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ตรุษจีนปีนี้สินค้าที่ร้านตนจะมีราคาถูก เพราะได้เดินทางไปซื้อมาจากประเทศจีนโดยตรง ทั้งโคมไฟ โคมประทัด และแผ่นป้ายคำอวยพร "ซินเจียหยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" รวมทั้งสั่งซื้อเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนับถือและมังกรทองจากประเทศจีน เพื่อไว้บริการลูกค้าที่ซื้อไปประดับไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว จะได้มีโชคมีลาภในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนอีกด้วย

 

      

      

      

 

 

 

Read more...

สธ.สงขลา แนะนำเลือกซื้ออาหารสำหรับเซ่นไหว้บรรพบุรุษช่วงเทศกาลตรุษจีน ควรเลือกที่สะอาด ปลอดภัยโดยเฉพาะอาหารสดประเภทเนื้อสัตว์

สธ.สงขลา แนะนำเลือกซื้ออาหารสำหรับเซ่นไหว้บรรพบุรุษช่วงเทศกาลตรุษจีน ควรเลือกที่สะอาด ปลอดภัยโดยเฉพาะอาหารสดประเภทเนื้อสัตว์ ควรเน้นที่สดใหม่ สะอาด และควรเลือกซื้อในตลาดสดที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานฯ

นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณนภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จังหวัดสงขลา มีหน่วยเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัยด้านอาหาร ดำเนินงานเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง โดยมีการสุ่มตรวจสารปนเปื้อนด้านเคมีในอาหาร สำหรับในจังหวัดสงขลาปี 2556 มีรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพทางด้านเคมี จำนวน 5,872 รายการ ผ่านเกณฑ์ 5648 รายการคิดเป็นร้อยละ 96.18 ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 224 รายการ คิดเป็นร้อยละ 3.81 โดยพบยาฆ่าแมลง ร้อยละ 5.89 สีสังเคราะห์ 4.55 สารแอลฟลาท๊อกซิน ร้อยละ 4.31 สารโพลาร์ ร้อยละ 3.68 และฟอร์มาลีน ร้อยละ 0.14  ดังนั้น ในช่วงเทศกาลตรุษจีนการเลือกซื้ออาหารไหว้เจ้าให้ปลอดภัย จึงควรต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ ทั้งแหล่งจำหน่ายอาหารและลักษณะของอาหาร กรณีอาหารสด เช่น เป็ด ไก่ หมู ควรเลือกซื้อที่สด ใหม่ เนื้อแน่น ไม่มีรอยจ้ำเลือด มีสีสม่ำเสมอตามธรรมชาติ , ขนมต่าง ๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถั่วขาว ถั่วแดง ควรเลือกที่สดใหม่ ไม่มีสีเจือปน ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวและเชื้อรา บรรจุในภาชนะที่สะอาด ส่วนผักผลไม้ล้างด้วยน้ำสะอาด หรือใช้ ผงฟู เกลือแกง ด่างทับทิม แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อลดปริมาณยาฆ่าแมลง ก่อนนำมาประกอบอาหาร และที่สำคัญควรเลือกซื้ออาหารจากแหล่งที่มีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร โดยสังเกตจากป้ายอาหารปลอดภัยหรือเลือกซื้อในตลาดสดน่าซื้อ  นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณนภาใส กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีการเตรียมอาหารไหว้เจ้าล่วงหน้า ดังนั้นจึงควรปรุงอาหารให้สุกทั่วถึง หรืออุ่นให้ร้อนก่อนนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น และอุ่นให้เดือดทุกครั้งก่อนนำมาไหว้เจ้าหรือรับประทาน สำหรับผู้ประกอบการควรเลือกอาหารสด ใหม่ ไม่ใช้มือหยิบจับอาหารสุก และล้างมือทุกครั้งก่อนปรุงอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ เพื่อป้องกันเชื้อโรคติดต่อระบบทางเดินอาหารที่อาจนำไปสู่ผู้บริโภคได้

Read more...

บริษัทเจ้าของเรือบรรทุกน้ำมัน อรพิน 4 เตรียมกู้เรือในสัปดาห์หน้า หลังคลื่นลมลดความรุนแรงลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ

ข่าว สันติภาพ รามสูต / บริษัทเจ้าของเรือบรรทุกน้ำมัน อรพิน 4 เตรียมกู้เรือในสัปดาห์หน้า หลังคลื่นลมลดความรุนแรงลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ

            นาวาโท สาธิต  ชินวรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา  เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพคลื่นลมในอ่าวไทยลดความรุนแรงลงเกือบเข้าสู่ภาวะปรกติ แต่ยังคงอยู่ในช่วงของฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออยู่  ทางนายอุทัย พลาศรี กัปตันเรือ อรพิน 4 ของบริษัท ไทยปิโตรเลี่ยมแทงค์เกอร์ จำกัด ได้เตรียมที่จะทำการกู้เรือบรรทุกน้ำมันเกยชายหาดสมิหลาสงขลา บริเวณแหลมสนอ่อน  ในสัปดาห์หน้าหลังเรือเกยชายหาดมานานเป็นเวลา 19 วัน โดยถูกคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา  ทำให้สภาพเรือเปลี่ยนไปอยู่ในสภาพเกยชายหาดขนานกับชายฝั่ง เปลี่ยนไปจากเดิมที่อยู่ในสภาพที่ตั้งฉากกับฝั่ง  ทำให้เป็นการยากในการกู้เรือ โดยจะต้องใช้บริษัทกู้เรือที่มีความชำนาญในการกู้เรือในสภาพแบบนี้เข้ามาดำเนินการ  ในขณะนี้ทางบริษัท ไทยปิโตรเลี่ยมแทงค์เกอร์ จำกัด  ตกลงให้บริษัท บี.เค.เค จำกัด ทำการกู้เรือเนื่องจากได้ทำการตรวจสอบพบว่า มีความชำนาญในการกู้เรือในสภาพเกยชายหาดขนานกับชายฝั่ง เข้ามาดำเนินการ โดยได้ออกแผนในการกู้เรือเสนอมาทางกรมเจ้าท่าแล้ว ในสัปดาห์นี้อยู่ระหว่างการเตรียมงานทั้งเตรียมเรือดูดทราย รถตักเซาะร่องเพื่อขุดทรายเป็นร่อง ให้เรือไหลออกตามร่องได้ โดยใช้เรือทักลากจูงกำลังสูง จำนวน 2 ลำ มาดำเนินการลากจูงออก ทางบริษัทกู้เรือจะเข้าดำเนินการกู้เรือในสัปดาห์หน้าทันทีโดยไม่คำนึงว่าจะมีคลื่นลมแรงหรือไม่ เพื่อที่จะเร่งกู้เรือออกจากชายหาดสมิหลา  บริเวณแหลมสนอ่อนให้เร็วที่สุด หลังที่ต้องล่าช้ามาหลายสัปดาห์  สำหรับเรือบรรทุกน้ำมัน อรพิน 4 ถูกคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทย ซัดมาเกยตื้นบริเวณแหลมสนอ่อนชายหาดสมิหลา ด้านหลังสงขลาอะควาเรี่ยม เขตเทศบาลนครสงขลา เมื่อช่วงกลางคืนวันที่  9  มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ขณะที่จอดลอยลำทอดสมอเพื่อหลบคลื่นลมแรงอยู่บริเวณหลังเกาะหนู สมอกราวเกิดเลื่อนหลุด แม้กัปตันจะพยายามเดินเครื่องจักรใหญ่แต่ไม่ทันประกอบกับขณะเกิดเหตุมีคลื่นลมแรงจัดทำให้เรือถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยชายหาดบริเวณแหลมสนอ่อน  ชายหาดสมิหลา


Read more...

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

หอการค้าจังหวัดชายแดนใต้ร่วมกับหอการค้าไทย จัดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs เตรียมฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกและAEC

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / หอการค้าจังหวัดชายแดนใต้ร่วมกับหอการค้าไทย จัดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs เตรียมฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกและAEC

วันนี้(21ม.ค.57) เวลา 09.30 น. ที่ โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  หอการค้าจังหวัดสงขลา  จัดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs (SMEs Development Program) ในหัวข้อ "SMEs วิธีทำเงิน"  โดยมี นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการสัมมนาฯ มีผู้เข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 500 คน   นายสมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดชายแดนใต้ ร่วมกับหอการค้าไทยในฐานะสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันได้ในตลาดโลกและใน AEC ที่จะมาถึงในปี 2558 ซึ่งจังหวัดสงขลาถือเป็นประตูในการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียน แม้จังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ แต่จังหวัดสงขลายังมีพื้นที่ที่สามารถเป็นจุดประสานในการแก้ไขปัญหาและเชื่อมโยงกับภูมิภาคอื่นๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถดำเนินไปได้ รวมถึงการเตรียมฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดให้เติบโตขึ้นได้ทันทีเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ  สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และรับคำปรึกษาจากวิทยากร นักธุรกิจ SMEs ที่ประสบความสำเร็จ เป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ SMEs ให้ประสบความสำเร็จ  โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การออกบูธให้คำปรึกษา 5 โซน ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งทุน , การเพิ่มไอเดียให้กับผู้ประกอบการ , ตัวเลขบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของธุรกิจ , Family Business Open Up และให้คำปรึกษาด้านบัญชีและภาษี , การบรรยายในหัวข้อ "การบริหารธุรกิจอย่างมีนวัตกรรม" , หัวข้อ "ประสบการณ์คนทำได้ ง่ายกว่าที่คิด" , "คนให้กู้เขาดูอะไร" ฯลฯ

 


Read more...

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

กปปส.สงขลา ร่วมชุมนุมปิดศาลากลางจังหวัดไม่ให้ข้าราชการเข้าทำงานและให้หยุดทำงานในวันนี้พร้อมเปิดเวทีปราศรัย เพื่อกดดันให้ระบบราชการหยุดงาน คู่ขนานกับ กปปส.กรุงเทพมหานคร

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / กปปส.สงขลา ร่วมชุมนุมปิดศาลากลางจังหวัดไม่ให้ข้าราชการเข้าทำงานและให้หยุดทำงานในวันนี้ พร้อมเปิดเวทีปราศรัย เพื่อกดดันให้ระบบราชการหยุดงาน คู่ขนานกับ กปปส.กรุงเทพมหานคร

วันนี้(20ม.ค.57) บรรยากาศที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา  กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.สงขลา จำนวนหลายร้อยคน  ร่วมชุมนุมปิดศาลากลางจังหวัดไม่ให้ข้าราชการเข้าทำงานและให้หยุดทำงานในวันนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ  เพื่อกดดันให้ระบบราชการหยุดทำงาน คู่ขนานกับกิจกรรมของ กปปส.กรุงเทพมหานคร  ซึ่งในขณะนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก มีการปิดเวทีปราศรัยอยู่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลาท่ามกลางเสียงนกหวีดและเสียงปรบมือของผู้ร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง  ส่วนอีกกลุ่มมีการเดินรณรงค์เชิญชวนข้าราชการในเขตเทศบาลนครสงขลาเข้าร่วมกิจกรรมเวทีปราศรัยบริเวณศาลากลางจังหวัด  ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย จำนวน  310 นาย จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา มาเสริมกำลังกับอาสารักษาดินแดนจาก 4 อำเภอ จำนวน 100 นาย ร่วมรักษาความสงบอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดสงขลาอย่างใกล้ชิดอย่างไรก็ตาม ขณะนี้บรรยากาศการชุมนุมที่จังหวัดสงขลายังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

                                                                                                     

 

Read more...

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) จัดประชุมวิชาการ เรื่อง “ การทำแผนการพัฒนาโครงข่ายสายรอง (Feeder) เชื่อมโยงการขนส่งและโลจิสติกส์ ” ที่ จ.สงขลา

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / กรมทางหลวงชนบท (ทช.) จัดประชุมวิชาการ เรื่อง " การทำแผนการพัฒนาโครงข่ายสายรอง (Feeder) เชื่อมโยงการขนส่งและโลจิสติกส์ " ที่ จ.สงขลา

วันนี้ (20ม.ค.57) เวลา 09.00 น. ที่ โรงแรม บี.พี.แกรนด์ ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอหาดใหญ่  เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ เรื่อง " การทำแผนการพัฒนาโครงข่ายสายรอง (Feeder) เชื่อมโยงการขนส่งและโลจิสติกส์ "  สำหรับการจัดประชุมในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของหน่วยงานในกลุ่มจังหวัดจังหวัดภาคใต้ สนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลที่จะเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคม จากการเข้าสู่ AEC ซึ่งจะทำให้มีความต้องการด้านการขนส่งและเดินทางในภูมิภาคเพิ่มขึ้น  กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ซึ่งมีบทบาทและภารกิจในการพัฒนาระบบโครงข่ายสายรอง (Feeder System) ที่เชื่อมต่อการขนส่งและโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์ จึงได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการจัดทำแผนฯ ซึ่งผลการดำเนินงานโครงการได้มีการคัดกรองและนำเสนอเส้นทางที่เหมาะสมเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายในการสนับสนุนการเกษตร การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทำแผนพัฒนาต่อไป

ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบทได้เห็นถึงความสำคัญด้านการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่  จึงได้จัดประชุมในครั้งนี้ขึ้น  เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการ  พร้อมรับฟังข้อเสนอต่างๆจากพื้นที่ในการนำไปปรับปรุงแผนการพัฒนาระบบโครงข่ายสายรองให้มีความเหมาะสมและตรงต่อความต้องการของท้องถิ่นมากที่สุด  ในส่วนของจังหวัดสงขลาได้มีการคัดเลือกเส้นทางหมายเลข สข.3005 แยก ทล.407 (กม.ที่ 20+000) บ้านทุ่งหวัง , หมายเลข สข.4040 แยก ทล.4135 (กม.ที่ 8 +300) บรรจบทางหลวงหมายเลข 4145 และ สข.1058 แยก ทล.- นิคมอุตสาหกรรมฉลุง เป็นพื้นที่ในการดำเนินโครงการดังกล่าว

Read more...

วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ (ชั้นพิเศษ) แจ้งหยุดจ่ายน้ำชั่วคราว

ข่าว ปุณฑิตา สารดิษฐ์ / การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ (ชั้นพิเศษ) แจ้งหยุดจ่ายน้ำชั่วคราว        

            นายอัษฎา ชูสิน  ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค (ชั้นพิเศษ) สาขาหาดใหญ่ เปิดเผยว่า การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ (ชั้นพิเศษ) มีความจำเป็นต้องหยุดจ่ายน้ำชั่วคราว เพื่อทำการซ่อมบำรุงวาล์วประตูน้ำไฟฟ้าที่สถานีจ่ายน้ำบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันอังคารที่  21 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 20.00 น. – 06.00 น. หรือจนกว่าจะแล้วเสร็จ  ซึ่งจะส่งผลให้น้ำประปาไม่ไหลบริเวณพื้นที่เทศบาลเมือง บ้านพรุทั้งหมด  และสำหรับอำเภอนาหม่อมอาจส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนหรือไม่ไหลในบางพื้นที่  ดังนั้น  การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ (ชั้นพิเศษ) จึงขอความร่วมมือให้ผู้ใช้น้ำโปรดสำรองน้ำไว้ใช้เพียงพอสำหรับช่วงเวลาดังกล่าว  หากดำเนินการเสร็จจะทำการจ่ายน้ำโดยเร็วและต้องขออภัยในความไม่สะดวก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-7459-8093

 

 

 

 

 

 

 

 


Read more...

วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชน กับ 8 สถาบันการศึกษาภาคใต้

สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชน กับ 8 สถาบันการศึกษาภาคใต้ เพื่อหารือในระดับนโยบายในการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

วันนี้(17ม.ค.57) เวลา 10.00 น. ที่ โรงแรมบุรีศรีภูฯ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  ศาสตราจารย์อมรา  พงศาพิชญ์  ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชน (MOU) ระหว่าง 8 สถาบันการศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ ท่ามกลางสักขีพยาน จำนวนกว่า 50 คน  นายชาติชาย  สุทธิกลม  เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ส่งเสริมปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะบรรลุผลในการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม ประกอบกับในปัจจุบันปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นทุกวันจะเห็นได้จากข่าวและสื่อต่างๆ เนื่องจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ยังขาดความตระหนักและความรู้ความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชน จึงทำให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นในสังคมและเพิ่มมากขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคใต้  ที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายด้าน อาทิ การละเมิดสิทธิจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐ  การซ้อมทรมาน  การละเมิดสิทธิในการประกอบอาชีพ  การละเมิดสิทธิในการอยู่อาศัย การละเมิดสิทธิในการศึกษา สิทธิในความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น

 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงต้องเร่งดำเนินการสร้างและแสวงหาเครือข่ายในการทำงานร่วมเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งเสริมปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้กับประชาชนได้ครอบคลุมในพื้นที่ต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นโ ดยที่ผ่านมาในภาคใต้ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือไปแล้วกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทั้ง 5 วิทยาเขต ในการส่งเสริมปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  ในครั้งนี้จึงได้กำหนดโครงการประสานความร่วมมือกับกลุ่มมหาวิทยาลัยในภาคใต้ 8 สถาบัน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช  มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต  มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา  มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เพื่อหารือในระดับนโยบายในการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน พร้อมร่วมกำหนดแผนงานโครงการและกิจกรรมในการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยในภาคใต้และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Read more...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...