สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาโครงการสำรวจและออกแบบก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ จังหวัดสงขลา
ข่าว ปสุตา แก้วมณี สงขลา / สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาโครงการสำรวจและออกแบบก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ จังหวัดสงขลา วันนี้ (23 พ.ค. 55) ที่ห้องทรายทอง โรงแรมพาวีเลี่ยน อ.เมือง จ.สงขลา นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการสำรวจและออกแบบ โครงการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ จัดโดยสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว และนำผลสรุปความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมงานมาประกอบการจัดทำโครงการฯ ให้มีความถูกต้องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นตามแผนงานที่วางไว้ นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่าด่านศุลกากรสะเดา จ.สงขลา เป็นด่านที่มีปริมาณสินค้านำเข้าและส่งออกผ่านเขตแดนทางบกสูงสุดในประเทศไทยและเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งสินค้าไปสู่ตลาดเอเชีย โดยมีมูลค่าสินค้านำเข้า-ส่งออกประมาณ 300,000 ล้านบาทต่อปี มีจำนวนนักท่องเที่ยวผ่านเข้าออกปีละหลายล้านคน อีกทั้งยังมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ 20 ต่อปี จากปริมาณสินค้าและปริมาณผู้ผ่านแดนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาและข้อจำกัดทั้งด้านพิธีการศุลกากร ปัญหาด้านความแออัดของสถานที่ให้บริการปัญหาด้านการจราจรติดขัดต่อ เนื่องไปยังชุมชนไทยจังโหลนที่เป็นชุมชนซึ่งตั้งถิ่นฐานกระจุกตัวริมถนนกาญจนวนิช และเป็นเส้นทางเข้าออกผ่านแดนที่สำคัญ รัฐบาลจึงมีแนวคิดในการขยายพื้นที่ด่านฯ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2539 จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการในการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อ สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดสงขลาเข้าร่วมสัมมนา เพื่อศึกษาความเหมาะสมการใช้ประโยชน์พื้นที่โครงการ วางแผนหลักในการพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เหมาะสมกับความต้องการด้านงานศุลกากรและงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงสภาพปัญหาและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ชุมชนการค้าชายแดนและการท่องเที่ยว รวมถึงการศึกษาออกแบบด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ให้สามารถรองรับปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทดแทนการใช้พื้นที่ส่วนด่านศุลกากรสะเดาในปัจจุบัน ซึงยังคงให้บริการในส่วนงานตรวจผู้โดยสารควบคู่กับด่านศุลกากรใหม่ที่จะพัฒนาขึ้นในอนาคต