คณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสาธารณภัย ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ พร้อมร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภั
ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / คณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสาธารณภัย ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ พร้อมร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
วันนี้(3ก.ย.55) เวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสาธารณภัย ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ รวมทั้งประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมี นายสมบัติ ยะสินธุ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม และมี นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา , ว่าที่พันตรีธีระ สันติเมธี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา และ นายโส เหมกุล ร่วมรายงานการดำเนินงาน นายโส เหมกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ทางภาคใต้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนประมาณช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งทางจังหวัดสงขลามีพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 16 อำเภอ จำนวน 104 ตำบล 591 หมู่บ้าน และมีพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม จำนวน 34 ตำบล 217 หมู่บ้าน โดยมีการเตรียมความพร้อมทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯจังหวัดสงขลาที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์อำนวยการและสั่งการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที การขุดลอกคูคลอง การจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำ นอกจากนี้ทางจังหวัดจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำทุกสัปดาห์ เพื่อเร่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และทางจังหวัดได้มีการสนับสนุนอุปกรณ์ อาทิ เรือพายเล็ก เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ ประจำจุดต่างๆขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะหากเกิดสถานการณ์จะสามารถใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที และระหว่างเกิดภัยได้มีการจัดเตรียมศูนย์อพยพ เครื่องอุปโภค-บริโภคพร้อมที่จะรองรับผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนผ่านเครือข่ายสื่อต่างๆ เกี่ยวกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำเพื่อให้ประชาชนรับทราบในการเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง และเมื่อภัยสงบได้เตรียมการบุคลากรในการเร่งประเมินความเสียหาย พร้อมช่วยแหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป