เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญาได้อีก 307 คนในโกดังบ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา
ข่าว สันติภาพ รามสูต / เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญาได้อีก 307 คนในโกดังบ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา
หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญา จำนวน 397 คน ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์นำมากักขังไว้บริเวณป่าสวนยาง แนวตะเข็บชายแดนไทยมาเลเซีย พื้นที่บ้านชายควน ม.4 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวานนี้ เพื่อรอส่งไปยังประเทศมาเลเซีย และบางส่วนขายเป็นแรงงานเรือประมง ล่าสุดวันนี้(11 ม.ค.56) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา พร้อมฝ่ายปกครองและตำรวจ ได้ช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญาได้อีก 307 คน แยกเป็นชาย 230 คนหญิง 31 คนเด็กชาย 22 คนและเด็กหญิง 25 คน ขณะถูกนำมาพักไว้ภายในโกดังสุดซอย 3 ไทย-จังโหลน พื้นที่บ้านด่านนอก ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทยมาเลเซีย และได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาตรวจสอบว่าเป็นการหลบหนีเข้าเมือง หรือถูกบังคับล่อลวงและตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่
พ.ต.ต.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจ.สงขลา เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้น ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ส่วนใหญ่สมัครใจเดินทางเข้ามาเอง โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางไปยังประเทศที่สาม และเป็นคนละกลุ่มกับชาวโรฮิงญาที่ถูกขักขังอยู่ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อย่างไรก็ตามต้องสอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มผู้ลักลอบนำพาชาวโรฮิงญากลุ่มนี้เข้ามา เนื่องจากเป็นการเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ก่อนที่จะลักดันกลับประเทศ ส่วนชาวมุสลิมโรฮิงญา 397 คนเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คัดแยกไปควบคุมไว้ 4 แห่ง ทั้งที่ ตม.ปาดังเบซาร์ สภ.ปาดังเบซาร์ สภ.สะเดา และสภ.คลองแงะ เพื่อรอผลักดันกลับประเทศ สำหรับความคืบหน้าด้านคดี
พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งทำหน้าที่ดูแลชาวโรฮิงญาดำเนินคดีแล้ว 8 คน เป็นชาวพม่า 4 คน ชาวโรฮิงญา 2 คนและคนไทย 2 คน โดยแจ้งข้อหานำพาเข้าให้ที่พักพิงและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง นอกจากนี้จะเชิญผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยอีก 2 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักการเมืองท้องถิ่นใน ต.ปาดังเบซาร์ มาสอบสวนในฐานะเป็นเจ้าของสถานที่กักขัง