ภาคประชาสังคม เดินหน้าจัดทำ Road Map เส้นทางสู่สันติภาพ หวังเรียกร้องให้กลุ่มบีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทยให้ความสำคัญความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ข่าว-ภาพ สุธิดา พฤกษ์อุดม / ภาคประชาสังคม เดินหน้าจัดทำ Road Map เส้นทางสู่สันติภาพ หวังเรียกร้องให้กลุ่มบีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทยให้ความสำคัญความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ
วันนี้(6มิ.ย.56) เวลา 10.30 น. ที่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายอับดุลสุโก ดินอะ กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ร่วมสนทนาเกี่ยวกับมุมมองภาคประชาสังคมกับการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในรายการ "หนึ่งถ้วยกาแฟ" ซึ่งดำเนินรายการโดย นายณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สงขลา ออกอากาศทางคลื่นความถี่ เอฟ.เอ็ม.102.25 เมกกะเฮิร์ตซ
นายอับดุลสุโก ดินอะ กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีกลุ่มขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานีอยู่หลายกลุ่ม แต่กลุ่มที่ใหญ่ที่สุด คือ กลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งตนมองว่าการที่รัฐบาลได้เปิดเวทีพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ถูกทางแล้ว และการที่เลือกพูดคุยกับนายฮัสซัน ตอยิบ เพราะถือเป็นคนหนึ่งในกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ไม่มีหมายจับ โดยทางบีอาร์เอ็นต้องการแยกตนเป็นเอกราช ทั้งนี้ หลังจากการเซ็นMouเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นMouที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทยแล้ว กลุ่มบีอาร์เอ็นได้ออกคลิปเรียกร้อง 5 ข้อกับรัฐบาลไทย ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าการที่กลุ่มบีอาร์เอ็นจะตกลงทำสัญญากับรัฐบาลไทยว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดสันติภาพนั้น ก็จะต้องประเมินความต้องการของสมาชิกกลุ่มด้วย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เห็นว่าเกิดความไม่มีเอกภาพทั้งในกลุ่มบีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทยเองที่ยังมีความขัดแย้งภายใน ดังนั้น ภาคประชาสังคมจึงวิเคราะห์กันว่า หากเกิดการล้มขบวนการเจรจาซึ่งไม่ได้เกิดจากรัฐบาลไทย แต่อาจเกิดจากตุลาการภิวัฒน์ จะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้ทวีความรุนแรงขึ้นได้ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างเห็นว่าจัดให้มีการพูดคุยสันติภาพกันแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนคนมีความหวัง แล้วความหวังพังทลาย
และในวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ภาคประชาสังคม โดย สภาประชาสังคมชายแดนใต้ จะจัดการประชุมเพื่อจัดทำ Road Map เส้นทางสู่สันติภาพขึ้น โดยมีองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 50 องค์กร เพื่อกดดันให้กลุ่มบีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทย ได้ตระหนักถึงความคิดเห็นและความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ คือ ภาคประชาชนนั่นเอง โดยจะมีการพูดคุยหารือกันในหลายเรื่อง อาทิ เรื่องการกระจายอำนาจในพื้นที่ปัญหาจะเป็นอย่างไร , คนส่วนน้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ คนจีน และคนไทยพุทธ มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว , การปล่อยตัวคนที่ถูกจับกุมและการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์จะเป็นในทิศทางใด เป็นต้น