สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ห่วงใยสุขภาพพี่น้องชาวไทยมุสลิม แนะวิธีดูแลสุขภาพระหว่างการถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอ
ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม / สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ห่วงใยสุขภาพพี่น้องชาวไทยมุสลิม แนะวิธีดูแลสุขภาพระหว่างการถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน
นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณนภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นช่วงที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนอันประเสริฐ เดือนแห่งการทำความดี ตามแบบอย่างที่ดีงามจากท่านนบีมูฮำหมัด ด้วยการงดเว้นการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม งดการเสพทุกชนิด รวมถึงการรักษาศีลทางด้านจิตใจและคำพูดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตก ซึ่งเป็นความศรัทธาที่จะปฏิบัติตนเพื่ออัลลอฮฺ และละศีลอดเมื่อถึงเวลา เรียกว่า แก้บวช โดยผู้ถือศีลอดส่วนใหญ่จะนำอาหารที่จะแก้บวช ไปที่มัสยิด หรือสถานที่ประกอบพิธีละหมาด หรือแก้บวชรับประทานอาหารด้วยกัน และบางครอบครัวจะทำอาหารมาเองหรือซื้ออาหารที่ปรุงสำเร็จแล้วมารับประทานที่บ้าน ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้การถือศีลอดได้บรรลุวัตถุประสงค์ภายใต้การมีสุขภาพที่ดี ไม่เกิดการเจ็บป่วยในระหว่างการถือศีลอดและส่งผลดีกับสุขภาพในระยะยาว จึงขอแนะนำการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันโรคอุจจาระร่วง,โรคอาหารเป็นพิษ รวมทั้งโรคติดต่อระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ โดยรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ไม่มีแมลงวันตอม และอาหารที่เก็บค้างคืนควรเก็บในตู้เย็น และนำมาอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน ส่วนอาหารปรุงสำเร็จจากรถเร่หรือจากร้านจำหน่ายอาหารให้อุ่นให้ร้อนก่อนที่จะรับประทานเช่นกันและไม่ควรอุ่นโดยใส่ถุงหรือถ้วยลงในหม้อหุงข้าว อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ถือศีลอดระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหารให้มากขึ้น นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพ เมื่อเริ่มรับประทานอาหารในตอนหัวรุ่งก่อนถือศีลอด ควรรับประทานให้เต็มที่เพื่อให้อิ่มตลอดวัน แต่ไม่ควรเป็นอาหารที่มีรสเค็มจัด เพราะจะทำให้หิวน้ำได้ สำหรับช่วงเปิดปอซอ ควรเริ่มด้วยอาหารเหลวย่อยง่าย เช่น น้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือผลไม้ เพื่อให้กระเพาะได้ปรับตัวและร่างกายสามารถใช้พลังงานได้ทันที หลังจากนั้นถึงค่อยรับประทานอาหารตามปกติ ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมปฎิบัติตามมาตรการ กินร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือด้วย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันโรคไม่ติดต่อรื้อรัง เป็นปัญหาสาธารณสุขและเป็นสาเหตุการป่วย/ตายอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ซึ่งในจังหวัดสงขลา พบว่าจำนวนผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นทุกปี โดยประชากรอายุ 15 - 60 ปีขึ้นไปที่ ได้รับการตรวจคัดกรองเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ในปี 2556 (ตุลาคม 2555-พฤษภาคม 2556) พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานร้อยละ 8.22 และพบกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 21.45 ดังนั้น ในช่วงเดือนรอมฎอนชาวไทย มุสลิมควรรับประทานอาหารที่ให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เช่น เนื้อวัว,ไก่, ปลา ,ข้าว ,นม,ไข่ ,ผัก, ผลไม้ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอดและอาหารมัน อาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป และสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ควรลดการบริโภคอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม อีกด้วย