จังหวัดสงขลา แถลงข่าวการดำเนินงานโครงการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ป้องกันปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / จังหวัดสงขลา แถลงข่าวการดำเนินงานโครงการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ป้องกันปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
วันนี้(3ก.ค.56) เวลา 09.45 น. ที่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานแถลงข่าวการดำเนินโครงการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ช่วง กม. 45+550 – กม.54+950 ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยให้มีการพัฒนาพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ประกอบด้วย อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนคร ซึ่งเป็นบริเวณที่มีปัญหาเร่งด่วนของจังหวัด เนื่องจากเป็นฐานการผลิตอาหารที่สำคัญของจังหวัดสงขลา ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา โดยมีพื้นที่ทำนากว่า 200,000 ไร่ และประสบอุทกภัยมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำจะมีน้ำท่วมขัง เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรม และเมื่อเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาทำให้คาบสมุทรสทิงพระ มีพื้นที่น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังในช่วงหน้าแล้งยังมีปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อทำการเกษตร สาเหตุหลักเกิดจากไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำในพื้นที่ น้ำต้นทุนไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่สามารถใช้น้ำจากทะเลสาบสงขลา เมื่อมีการรุกตัวของน้ำเค็มถึงทะเลสาบตอนบน
จากปัญหาดังกล่าว นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการจัดทำแผนบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน และแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพให้กับเกษตรกรในการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำให้เต็มศักยภาพ สนับสนุนให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการรักษาแหล่งน้ำ โดยจังหวัดได้สนับสนุนงบพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัดในการพัฒนาตามผลการศึกษาของกรมชลประทาน รวมทั้งการพิจารณาเร่งรัดดำเนินโครงการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก โดยจะดำเนินการขุดลอกให้เสร็จภายใน 2 ปี คือ ปี 2556 - 2557 แบ่งพื้นที่ดำเนินการ 3 ช่วง แต่ในช่วงที่ 3 ระยะทางรวม 9.4 กิโลเมตร ยังไม่มีงบประมาณดำเนินการ
จึงให้ภาคเอกชนที่มีการขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่อ่าวไทยติดกับจังหวัดสงขลา เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระในช่วงดังกล่าว และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก 8 บริษัท ประกอบด้วย คลังปิโตรเลียม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) , บริษัท เซฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด , บริษัท ซีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด (สาขาประเทศไทย) , บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) , บริษัท ดีเจ ออยล์ฟิลด์ (เซอร์วิส) ประเทศไทย จำกัด , บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัท อมฤต แอนด์ แอส โซซิเอทส์ จำกัด และบริษัท อดิสรสงขลา จำกัด รวมเป็นเงินสนับสนุน จำนวน 4,079,200 บาท
ทั้งนี้ ในการขุดลอกดังกล่าว จังหวัดสงขลาได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการเครื่องจักรกลที่ 7 กรมชลประทานเป็นหน่วยดำเนินการ และกรมชลประทานจะสนับสนุนงบประมาณเหลือจ่ายปี 2556 เพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่เพียงพอในการขุดลอกคลอง นอกจากนี้ในการขุดลอกจังหวัดให้บริษัทเข้ามามีส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจรับงานการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ฯอีกด้วย