ผอ.อุตุฯใต้เตือนชาวประมงพื้นบ้าน ก่อนออกเรือให้ตรวจเช็คสภาพอากาศ หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยเรือจมเหมือนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ข่าว สันติภาพ รามสูต / ผอ.อุตุฯใต้เตือนชาวประมงพื้นบ้าน ก่อนออกเรือให้ตรวจเช็คสภาพอากาศ หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยเรือจมเหมือนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้(17ก.ค.56) ที่ บริเวณชายฝั่งทะเลชุมชนบ้านเก้าเส้ง อ.เมือง จ.สงขลา เริ่มมีคลื่นลมพัดเข้าหาฝั่งแต่ยังไม่มีความรุนแรง หลังจากที่มีการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนบ้านเก้าเส้ง เขตเทศบาลนครสงขลา ที่ออกไปทำการประมงอวนปลาทู อวนกุ้ง ลอบปูและเรือไดร์หมึก รีบนำเรือกลับเข้าฝั่งทันที หลังได้รับการแจ้งเตือนและนำเรือทอดสมอบก เพื่อรอดูสภาพคลื่นลมในทะเลอีกครั้งหนึ่ง โดยกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ที่นายสามารถ ปานรังสี อายุ 50 ปี ชาวประมงพื้นบ้านใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรมราช ถูกคลื่นซัดเรือล่ม ขณะออกทำการประมงในทะเลอ่าวไทย บริเวณบ้านปากระวะ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และต้องค้นหาศพนานถึง 4 วัน จึงพบศพ ดร.ภูเวียง ประคำมินทร์ ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก กล่าวว่า อยากจะเตือนชาวเรือนิดหนึ่งเกี่ยวกับสภาวะอากาศในท้องทะเล ในช่วงนี้มีลักษณะของเมฆฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ความสำคัญและอันตรายของมัน เนื่องจากเมฆฟ้าคะนอง ก่อนที่จะมีฝนตกมักจะมีลมแรง และบริเวณที่มีฝนตกแบบนี้ คลื่นมักจะสูงขึ้นฉับพลัน เนื่องจากกระแสลม เพราะฉะนั้นอันตราย 2 อย่าง จากเมฆฝนฟ้าคะนองในทะเล ซึ่งก็คือ คลื่นกับลมแรง เพราะฉะนั้นเรือประมงขนาดเล็ก เรือหางยาว เรือไดหมึกขนาดเล็ก ต้องใช้ความระมัดระวัง หากฝนฟ้าคะนองในทะเลหรือมีฝนตกลงให้รีบหลบเข้าฝั่ง เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช