จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมรายงานข้อมูลยางพารา วิเคราะห์ผลกระทบราคายางต่อเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา
หอการค้าจังหวัดสงขลา แถลงข่าว "หอการค้าสงขลาโพลล์" เพื่อรายงานภาพรวมภาวะเศรษฐกิจ 5 ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมรายงานข้อมูลยางพารา วิเคราะห์ผลกระทบราคายางต่อเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา
วันนี้(25เม.ย.57) เวลา 11.00 น. ที่ โรงแรมซากุระแกรนด์วิว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หอการค้าจังหวัดสงขลา จัดให้มีการแถลงข่าว "หอการค้าสงขลาโพลล์" โดยมี ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พร้อมด้วย นายสมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา และ ดร.มาลิน สืบสุข รองประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมรับฟังโดยพร้อมเพรียงกัน การจัดแถลงข่าวในครั้งนี้ถือเป็นการแถลงข่าวครั้งแรกในภูมิภาค เพื่อรายงานภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และรายงานข้อมูลทางด้านยางพารา พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบเรื่องราคายางต่อเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา โดยมีการสุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการ จำนวน 65 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจด้านยางพาราที่มีมูลค่ากว่าร้อยละ 60 - 70
โดยมีการประเมินสถานการณ์ธุรกิจยางพาราในเขตพื้นที่ภาคใต้แบ่งเป็น 3 ขนาดธุรกิจ ประกอบด้วย S ร้อยละ 24.6 M ร้อยละ 40 L ร้อยละ 35.4 โดยทัศนะต่อระดับราคายางพาราในปัจจุบันที่ส่งกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ราคาเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 63 บาท / กิโลกรัม โดยผลการสำรวจความคิดเห็นมองว่ามีความเหมาะสมปานกลาง ร้อยละ 25.6 เหมาะสมน้อย ร้อยละ 28.6 และไม่เหมาะสม ร้อยละ 58.7 โดยเห็นว่าระดับราคายางพาราที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ 95 – 96 บาท / กิโลกรัม สำหรับผลกระทบจากสถานการณ์ยางพารา ณ ปัจจุบันส่งผลกระทบในเรื่องการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในพื้นที่และภาระหนี้สินของประชาชนชาวสวนยางเท่ากัน คือ แย่ลง ร้อยละ 93.7 และไม่กระทบ ร้อยละ 6.3 ด้านทัศนะต่อแนวโน้มราคายางพาราของประเทศไทยที่จะกลับมาอยู่ที่ 100 บาท / กิโลกรัม ผลการสำรวจพบว่า ไม่แน่ใจร้อยละ 59 ไม่มีร้อยละ 23 และมีร้อยละ 18 ในส่วนของผลกระทบจากราคายางพาราต่อภาวะเศรษฐกิจ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลการสำรวจ แย่ลงร้อยละ 82.8 ปานกลางร้อยละ 14.1 และไม่กระทบร้อยละ 3.1 ภาคใต้ แย่งลงร้อยละ 92.3 ปานกลางร้อยละ 7.7 ดังนั้น ปัญหาที่ชาวสวนยางจะเผชิญในอนาคต ได้แก่ ราคายางพาราที่ตกต่ำ , ความวุ่นวายทางการเทือง , ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น , ปัญหาหนี้สินของชาวสวนยาง , ความต้องการของตลาดโลกแย่ลง , ค่าครองชีพสูงขึ้น และปัญหาเศรษฐกิจโลก ในส่วนของข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการผลิตยางพาราในประเทศ คือ การส่งเสริมตลาด , การพัฒนาพันธุ์ยางให้ได้ผลผลิตดี , การลดต้นทุนการผลิต , การแปรรูปยางพารา , การลดค่า CESS เพื่อจะได้แข่งขันกับประเทศผู้ผลิตประเทศอื่นได้ และภาครัฐควรส่งเสริมและสนับสนุน ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการผลิตยางพาราในประเทศ คือ การทำวิจัยและพัฒนา , การประกันราคายางพารา , การให้ความรู้เกี่วกับการผลิต การใช้ปุ๋ย , การสร้างภาคีเครือข่ายการส่งออก และการเก็นค่า CESS (กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง) และสิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการ คือ การประกันราคายางพาราที่เหมาะสม , การทำวิจัยในเรื่องการพัฒนาภัณฑ์และเพิ่มผลผลิต , การส่งเสริมตลาดยางพารา , การเปลี่ยนแปลงค่า CESS , การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และควรใช้กลไกขององค์การ 3 ประเทศให้เป็นประโยชน์