วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

สธ.เร่งพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ร.พ.ใน 4 จังหวัดใต้ เน้นใช้เวลาถึงมือแพทย์เร็วที่สุด

ข่าว-ภาพ สุธิดา พฤกษ์อุดม /สธ.เร่งพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ร.พ.ใน 4 จังหวัดใต้  เน้นใช้เวลาถึงมือแพทย์เร็วที่สุด

            สาธารณสุข เร่งพัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ผู้ป่วยสามารถไปถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเร็วที่สุด

วันนี้( 23เม.ย.56) ที่ โรงพยาบาลสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา พลเอกนายแพทย์อำนวย ถิระชุณหะ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำเครือข่ายบริการสุขภาพที่ 12  ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน  สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่ชาติ  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป  โรงพยาบาลชุมชน ทีมแพทย์ พยาบาล ตำรวจ ผู้แทนแม่ทัพภาค 4 ผู้แทน ศอบต. และแพทย์ด้านระบาดวิทยามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์หาดใหญ่  ร่วมประชุมพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ คือสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในพื้นที่

 พลเอกนายแพทย์อำนวย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับมอบหมายจากนายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้มาติดตามการดำเนินงานการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีทั้งหมด 37 แห่ง   ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลในการบริการประชาชนในพื้นที่  เนื่องจากที่ผ่านมา การปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์กู้ชีพทุกระดับ ในระบบการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ มีรูปแบบเฉพาะพื้นที่ ต่างจากพื้นที่ปกติอื่นๆอย่างสิ้นเชิง    โดยกระทรวงสาธารณสุขวางแผนเร่งพัฒนาประสิทธิภาพ 3 เรื่องหลัก คือ1.ระบบการปฏิบัติการกู้ชีพของทีมแพทย์ฉุกเฉิน 2. ระบบความพร้อมของห้องฉุกเฉินหรือห้องอีอาร์ในโรงพยาบาลทุกระดับ  โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุบ่อย   และ 3 ระบบการส่งต่อผู้ป่วย ให้ถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเร็วที่สุด  Fast tract   ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

            ทางด้านนายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา  ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเครือข่ายบริการสุขภาพที่ 12 กล่าวว่า ในการพัฒนาระบบการดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบ  กระทรวงสาธารณสุขได้วางระบบช่องทางด่วน บริการของโรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัดอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ระบบแจ้งเหตุหมายเลขด่วน 1669 ระบบศูนย์ส่งต่อ และห้องฉุกเฉิน โดยจะมีการประสานการส่งต่อกันระหว่างโรงพยาบาลขนาดใหญ่กับโรงพยาบาลขนาดเล็ก  การใช้ทรัพยากร  บุคลากร คลังเลือด  การพัฒนาเครื่องมือแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยสิ่งผิดปกติให้ได้เร็วที่สุด  เพื่อให้การดูแลรักษาได้ตรงจุด  นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกองทัพภาคที่ 4 และ ศอ.บต.ใช้ระบบการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการสาหัสทางอากาศมาใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที 

            

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...