ข่าว ทักษิณ อรุณ / โรงพยาบาลหาดใหญ่ออกโรงหนุนนโยบายจ่ายค่าตอบแทน p4p ส่งผลดีต่อบุคลากรสาธารณสุขทั้งระบบ
วันนี้(5มิ.ย.56) ที่ โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา นายแพทย์ กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ นำทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากร ออกมาแสดงพลังสนับสนุนนโยบายจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน หรือ "P4P" (Pay for Performance) ตามประกาศฉบับที่ 8 และ 9 ของ นายแพทย์ ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้กับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งทั่วประเทศตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา
สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคลากรของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขตามนโยบาย P4P นั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ซึ่งจ่ายตามประสบการณ์การทำงาน และความเชี่ยวชาญของกำลังคน ต่อมาเป็นเงินสำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษและวิชาชีพขาดแคลนและจำเป็น เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้มีกำลังคนทำงานในพื้นที่พิเศษ และอยู่ในระบบราชการ สุดท้ายเป็นเงินค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน หรือ P4P ซึ่งจะจ่ายให้ตามผลการปฏิบัติงานจริงของบุคลากร ทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้มากยิ่งขึ้น โดย นายแพทย์ กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า การจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน หรือ P4P เป็นการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลที่ผันแปรตามผลการปฏิบัติงาน ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพของงาน ซึ่งถือว่ามีความเป็นธรรมกับบุคลากรในทุกตำแหน่งงาน และดีกว่าการใช้ระบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแบบเก่าตามประกาศฉบับที่ 4 และ 6 ซึ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลชุมชนที่ปริมาณงานมีไม่เท่ากัน ส่วนกรณีที่ชมรมแพทย์ชนบทและโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ออกมาคัดค้านนโยบายดังกล่าวนั้น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่จะกระทำได้ แต่โดยส่วนตัวคิดว่า นโยบาย P4P น่าจะมีความเป็นธรรม และส่งผลดีกว่าระบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแบบเก่า เนื่องจากสามารถที่จะกระจายรายได้ออกไปให้กับโรงพยาบาลชุมชนและแพทย์ชนบทได้มากขึ้น ลดปัญหาการกระจุกตัวของบุคคลากรทางการแพทย์ที่แย่งกันเข้าทำงานในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในตัวเมือง อีกทั้งยังส่งผลดีกับประชานที่มารับบริการของโรงพยาบาล จากการที่แพทย์ฝีมือดีจะกระจายตัวออกไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่รอบนอก รวมทั้งในพื้นที่เสี่ยงอย่าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มากขึ้น
