วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรึกษาหารือแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับมาเลเซีย ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านรองรับ AEC

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรึกษาหารือแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับมาเลเซีย ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านรองรับ AEC

 วันนี้(5ส.ค.57) เวลา 09.30 น. ที่ โรงแรม หรรษา เจ.บี. อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสัญญารักษ์  สินสกุล พาณิชย์จังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรึกษาหารือแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับมาเลเซีย ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ประจำปีงบประมาณ 2557  โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ผู้ประกอบการค้าชายแดนของไทยและมาเลเซีย เข้าร่วมประชุม จำนวน  50 คน  นายสัญญารักษ์  สินสกุล พาณิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า การจัดประชุมตามโครงการนี้ ได้ดำเนินการ 2 ครั้ง  คือ ครั้งที่ 1 เป็นการประชุมผู้ประกอบการในระดับพื้นที่ โดยมีเป้าหมาย 80 คน ได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 ณ โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส์ แอนด์ รีสอร์ท อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  และครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2  เป็นการประชุมร่วมของหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ผู้ประกอบการค้าชายแดนของไทยและมาเลเซีย โดยความร่วมมือจากศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จาก 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง  ประกอบด้วย  จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล สงขลา พัทลุง ตรัง และนครศรีธรรมราช รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

พาณิชย์จังหวัดสงขลา  กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสงขลามีศักยภาพทั้งด้านการค้า และการลงทุน มีด่านการค้าที่เป็นการค้าชายแดนอยู่ 2 ด่าน คือด่านศุลกากรสะเดา และด่าน   ปาดังเบซาร์ มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุดในประเทศไทย ประมาณร้อยละ 70 ของมูลค่าการค้าชายแดนทั้งประเทศ แต่อาจจะมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้างในการทำการค้าชายแดนระหว่างกัน เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน  การจัดประชุมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ผู้ประกอบการชายแดนของทั้งสองประเทศได้มาพบปะหารือกัน สร้างพันธมิตรทางการค้าร่วมกัน และมีกิจกรรมที่ต่อเชื่อมกันมากขึ้น การเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหา ทั้งด้านการท่องเที่ยว การบริการ และโลจิสติกส์ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการที่ประเทศไทยจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งฝ่ายไทยและประเทศมาเลเซีย ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์และมีแนวทางการพัฒนาการค้าระหว่างกัน สร้างความร่วมมือในการสร้างเศรษฐกิจการค้าชายแดน เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...