วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เกษตรกรในจ.สงขลา เพาะเลี้ยงด้วงสาคูในกะละมังประสบความสำเร็จส่งขายกิโลกรัมละ 250 บาท สามารถสร้างรายได้เสริมนอกเหนือจากการกรีดยางพารา

ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / เกษตรกรในจ.สงขลา เพาะเลี้ยงด้วงสาคูในกะละมังประสบความสำเร็จส่งขายกิโลกรัมละ 250 บาท สามารถสร้างรายได้เสริมนอกเหนือจากการกรีดยางพารา

นายสังวรณ์ มะลิวรรณ อายุ 48 ปี และนางสุนันท์ มะลิวรรณ สองสามีภรรยา ชาวบ้านหูแร่ หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หันมาเพาะเลี้ยงด้วงสาคูในกะละมัง เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้นอกเหนือจากอาชีพหลักที่กรีดยางพารา จนประสบความสำเร็จมีรายได้ต่อเดือนเกือบ 5 หมื่นบาท โดยสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยงในบริเวณบ้านและขยายการเลี้ยงตลอดช่วง 3 ปีจนถึงขณะนี้เพิ่มเป็น 500 กะละมัง สามารถเลี้ยงด้วงสาคูออกจำหน่ายได้สูงสุด 200 กิโลกรัมต่อเดือนขายได้กิโลกรัมละ 250 บาทและเป็นที่ต้องการของตลาดแต่ละรุ่นที่ออกมาไม่พอขาย และกำลังขยายการเพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้น สำหรับวิธีการการเลี้ยงด้วงสาคูในกะละมังของ นายสังวร เริ่มจากการเพาะเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์หรือที่ชาวใต้เรียกว่าแมงหวัง ก่อน โดยเลี้ยงไว้ในต้นสาคูที่ตัดเป็นท่อนความยาวประมาณครึ่งเมตรโดยใช้ขุยมะพร้าวละเอียดมาวางไว้ด้านบนเพื่อเป็นที่อาศัย จากนั้นก็จะไข่ตัวอ่อนออกมาปล่อยไว้55 วันก็จะฟักตัวเป็นดักแด้และอีก 15 วันก็จะกลับมากลายเป็นตัวแมงหวังหรือพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อีกครั้งพร้อมที่จะนำไปเลี้ยงต่อในกะละมังให้เป็นตัวด้วงเพื่อส่งขาย ส่วนขั้นตอนของการเลี้ยงในกะละมังจะใช้ต้นสาคูมาบดผสมกับอาหารหมูโต 1 จานผสมน้ำคลุกเคล้าให้เข้ากันและนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ใส่ลงไปกะละมังละ 10 ตัว ใช้เปลือกสาคูวางทับตัวใช้เปลือกสาคร์ใส่ลงไปจำนวนคร้นรเลี้ย  ก็ยังนำไปเป็นปุ๋ยได้ด้วยชีพเสริมหรืออีลงไปเพื่อเป็นที่อาศัยของพ่อแม่พันธุ์และนำฝามาปิดกะละมังไว้พ่อแม่พันธุ์ก็จะวางเริ่มวางไข่ ทิ้งไว้1 เดือนก็สามารถจับขายได้ โดยแต่ละกะละมังจะได้ตัวด้วงประมาณ1 กิโลกรัม แต่จะต้องคอยดูแลให้มีความชื้นสม่ำเสมอซึ่งเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ด้วงโตเร็วรสชาติ หวานมัน และมีโปรตีนสูงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยลูกค้ามีทั้งที่มาซื้อถึงบ้านและนำออกไปขายตามตลาดนัดเพื่อนำไปเป็นกลับแกล้ม กินเล่นหรือเมนูเด็ดสารพัดชนิด และการเลี้ยงด้วงเป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจซึ่งเกษตรกรทั่วไปสามารถนำไปสร้างเป็นอาชีพเสริมได้เพราะตลาดยังต้องการสูง ที่สำคัญกากสาคูที่เหลือจากการเลี้ยงด้วงก็ยังนำไปเป็นปุ๋ยได้ด้วย นายสังวรณ์ บอกว่าพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงด้วงในกะละมังให้กับผู้ที่สนใจโดยติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 080-0350204 หรือมาเรียนรู้ได้ที่บ้านพัก

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...