ส.อ.ท.จับมือ สงขลาเปิดเวทีเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในจังหวัดรับมือมาตรการทางสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าผ่านการสัมมนาฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / ส.อ.ท.จับมือ สงขลาเปิดเวทีเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในจังหวัดรับมือมาตรการทางสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าผ่านการสัมมนาฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์

วันนี้(25มิ.ย.55) ที่ โรงแรม บี.พี. แกรนด์ ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สถาบันโครงการ สิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ร่วมกับจังหวัดสงขลา และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา จัดสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการ "การทำฉลากคาร์บอนสำหรับอุตสาหกรรมยางพาราและอุตสาหกรรมอื่นๆ"  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการส่งออกสินค้ายางพารา อาหาร หรือสินค้าอื่นของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดนในการปรับตัวกับมาตรการทางสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้า โดยมี นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานการเปิดสัมมนาดังกล่าว

นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่นานาชาติต่างให้ความสนใจ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ซึ่งต้นเหตุส่วนใหญ่มาจากการดำเนินกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลาได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในจังหวัดและจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งการปรับตัวในการรับมาตรการทางด้านสิ่งแวดล้อมของตลาดการค้าโลก และที่สำคัญการดำเนินการจัดทำฉลากคาร์บอนของภาคอุตสาหกรรมถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการรับผิดชอบต่อสังคม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรด้วย ซึ่งฉลากคาร์บอนนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อและผู้บริโภคตามกระแสการร่วมรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ  นอกจากนั้นยังถือเป็นการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย ด้าน นายอุดมเดช นิ่มนวล อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ฉลากคาร์บอน เป็นฉลากที่แสดงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยสินค้าหรือบริการ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกสินค้า ซึ่งปัจจุบันประเทศในยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เริ่มมีการใช้ฉลากคาร์บอนเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับมาตรการทางสิ่งแวดล้อม ประกอบกับประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการส่งออกผลิตภัณฑ์จากภาคอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์จากกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจึงได้จัดการสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในครั้งนี้ขึ้น