จังหวัดสงขลา จัดประชุมคณะทำงานวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์น้ำและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มฯ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากภาคใต้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม
ข่าว สุธิดา พฤจังหวัดสงขลา จัดประชุมคณะทำงานวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์น้ำและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มฯ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากภาคใต้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม
วันนี้ (24ต.ค.55) เวลา 14.00 น. ที่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก อ.เมือง จ.สงขลา นายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์น้ำและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดสงขลา ครั้งที่ 1 / 2555 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 50 คน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก , สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา , สำนักชลประทานที่ 16 , สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 8 , สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สงขลา ฯลฯ
นายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดสงขลามีฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2555 ซึ่งขณะนี้ทางภาคใต้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสบอุทกภัยในช่วงนี้เป็นประจำทุกปี ทางจังหวัดสงขลาจึงได้จัดตั้งคณะทำงานวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ฯและจัดประชุมในครั้งนี้ขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ได้
ด้าน นางสาวพะเยาว์ เมืองงาม นักอุตุชำนาญการพิเศษ จากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผยว่า ระหว่างวันนี้(24ต.ค.55) -25 ตุลาคม 2555 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป จะมีฝนเกือบทั่วไป หรือประมาณร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวดนครศรีธรรมราชลงมา มีฝนกระจาย หรือประมาณร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 26-30 ตุลาคม 2555 จะมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย หรือประมาณร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ทั้งนี้ จะมีพายุโซนร้อน "เซินตินห์" ที่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เข้าสู่ทะเล จีนใต้ในระยะต่อไป แต่คาดว่าจะไม่มีผลกระทบกับภาคใต้ของไทย อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาทขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่าเพิ่งตื่นตระหนก พร้อมทั้งให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าว สวท.สงขลา