รพ.หาดใหญ่ รณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก หลังพบมีผู้ป่วย 1ราย เสียชีวิตจากไข้เลือดออก และ อ.หาดใหญ่ มีผู้ป่วยสูงเป็นอันดับ 1
ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / รพ.หาดใหญ่ รณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก หลังพบมีผู้ป่วย 1ราย เสียชีวิตจากไข้เลือดออก และ อ.หาดใหญ่ มีผู้ป่วยสูงเป็นอันดับ 1 วันนี้ (14 ก.พ. 56) ที่ บริเวณหน้าเสาธง รพ.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นพ.พณพัฒน์ โตเจริญวานิช หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคม รับมอบหมายจาก นพ.กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผอ.รพ.หาดใหญ่ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข อ.หาดใหญ่ และสำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา ประกาศแถลงการณ์รณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกและรับมือกับสถานการณ์ไข้เลือดออก โดยมีทีมนักปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพใน อ.หาดใหญ่ และพยาบาล รพ.หาดใหญ่ เข้าร่วมรณรงค์และเดินประชาสัมพันธ์ไปรอบตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อขอความร่วมมือกับประชาชนช่วยกันกำจัดยุงลาย
จากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2556 ของประเทศไทยในช่วงวันที่ 1 มกราคมถึง 5 กุมภาพันธ์ 56 ได้พบผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงถึง 5,739 ราย ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาสี่ถึงห้าเท่า และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย
โดยในส่วนของ จ.สงขลา พบผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ตั้งแต่วันที่1 มกราคมถึง 5 กุมภาพันธ์ 56 พบเป็นไข้เลือดออก 842 รายคิดเป็นอัตราป่วย 63.30 ต่อแสนประชากร อัตราป่วยร้อยละ 0.12 และพบผู้ป่วยทั้ง 16 อำเภอในจ.สงขลา โดยเฉพาะอ.หาดใหญ่ พบมีจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงที่สุดและเป็นอันดับ 1 ของ จ.สงขลา สูงเพิ่มขึ้น 13 เท่าของผู้ป่วยในปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่เป็นเด็กในวัยเรียน อายุระหว่าง 5-14 ปีจำนวน161 รายรองลงมา 15-24 ปีจำนวน 118 ราย โดยประมาณร้อยละ 70 ของผู้ป่วยไข้เลือดออกทั้งหมด ส่วนกลุ่มวัยเรียนร้อยละ 67.88 ของผู้ป่วยทั้งหมด และมีรายงานว่าพบผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 1 รายเป็นเพศหญิงอายุ 21 ปีอยู่ อ.สะเดา จ.สงขลา มีอาการไข้สูงนานกว่า 10 วันและได้รักษาคลินิกทั่วไปแต่อาการไม่ดีขึ้น แล้วนอนรักษาตัวที่รพ.สะเดา จนอาการหนักถูกส่งตัวมารักษาที่รพ.หาดใหญ่ ได้เพียง 6 ชั่วโมง ก็เสียชีวิตลง
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ร่วมกันรณรงค์หามาตรการป้องกันและควบคุมยุงลายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของยุงลายก่อนถึงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง ในประมาณเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม โดยเร่งสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายภายในบ้านและชุมชน โดยเฉพาะในโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กต้องไม่พบลูกน้ำยุงลายตามภาชนะต่างๆ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ภัยร้ายของโรคนี้ และขอความร่วมมือช่วยกันกำจัดยุงลายให้หมดไป.