ตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา เข้าช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาวจำนวน 13 คน ที่ถูกบังคับค้าประเวณีในสถานบริการที่บ้านด่านนอก ชายแดนไทยมาเลเซีย

          ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.สะเดา จ.สงขลา นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในร้านปานี่ คาราโอเกะ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยไทยจังโหลน 7 บ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม เมืองท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย อ.สะเดา พร้อมกับช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาวจำนวน 13 คน หลังได้รับแจ้งว่าถูกหลอกมาบังคับค้าประเวณี

          จากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนนี้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนเพื่อคัดแยกว่ามีรายใดบ้างที่ถูกหลอกจากขบวนการค้ามนุษย์และบังคับให้ค้าประเวณีหรือสมัครใจทำงานเอง และจากการตรวจสอบหลักฐานในเบื้องต้นพบว่ามีทั้งที่มีหนังสือเดินทางถูกต้องแต่มาในฐานะนักท่องเที่ยว และบางส่วนหลหนีเข้าเมือง แต่ทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตทำงาน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนางประไพ และนางประภา ชุมละออง สองพี่น้องที่เป็นเจ้าของร้าน นายมาอาซี ชาวสิงค์โปร์ และนายลีบุน เซียง ชาวมาเลเซีย คนคุมร้านและเชียร์แขก แจ้งข้อหาเป็นธุระจัดหาฯ และค้ามนุษย์

           โดยการเข้าตรวจค้นสถานบริการแห่งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจาก น.ส.ซอย อายุ 19 ปี ชาวลาวว่าถูกหลอกมาบังคับค้าประเวณีที่ร้านดังกล่าวพร้อมเพื่อนชาวลาวอีกหลายคนโดยพยายามหลบหนีออกมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ 

            แต่จากการสอบสวน นางประไพ และนางประภา เจ้าของร้าน ให้การว่าหญิงชาวลาวทั้งหมดได้เดินทางเข้ามาทำงานที่ร้านได้เพียง 2 วัน ซึ่งทั้งหมดมาด้วยความสมัครใจไม่มีการบังคับหรือขู่เข็ญให้ค้าประเวณี และกำลังยื่นขอใบอนุญาตทำงานกับทางแรงงานจังหวัดสงขลา ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 วัน แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมก่อน