สนง.จัดหางานจังหวัดสงขลา จัดประชุมนายจ้าง/สถานประกอบการ เรื่อง “การผ่อนผันแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นกรณีพิเศษ”
ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม สงขลา / สนง.จัดหางานจังหวัดสงขลา จัดประชุมนายจ้าง/สถานประกอบการ เรื่อง "การผ่อนผันแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นกรณีพิเศษ"
วันนี้(1มี.ค.56) เวลา 09.00 น. ที่ โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส์ฯ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการประชุมนายจ้าง/สถานประกอบการ เรื่อง "การผ่อนผันแรงงานต่างด้าวหลบหรีเข้าเมืองเป็นกรณีพิเศษ" โดยมีนายจ้างและสถานประกอบการเข้าร่วมการประชุมจำนวนกว่า 300 คน
นายวิวัฒน์ จิระพันธ์วาณิช จัดหางานจังหวัดสงขลา กล่าวว่า มติรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2556 เห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชาที่ลักลอบทำงานอยู่กับนายจ้างอยู่แล้ว รวมทั้งบุตรของแรงงานต่างด้าวที่อายุไม่เกิน 15 ปีอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเป็นเวลา 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2555 เพื่อดำเนินการให้ได้รับหนังสือเดินทางชั่วคราว (Temporary Passport) หรือเอกสารรับรองบุคคล(Certificate of Identity) จากประเทศต้นทางและได้รับอนุญาตให้เป็นผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับได้รับอนุญาตทำงานเฉพาะกับนายเจ้างเดิมต่อไป รวมทั้งให้ความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการโรงงานต่างๆในการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว เพื่อให้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็วโดยดำเนินการในรูปแบบศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)
ดังนั้น สำนักงานจัดหางานจังหวัดสงขลาจึงได้จัดการประชุมในวันนี้ขึ้น เพื่อเป็นการชี้แจงถึงวิธีการและขั้นตอนให้กับนายจ้าง/สถานประกอบการ เร่งยื่นแบบคำร้องขอจ้างแรงงานต่างด้าว ตั้งแต่บัดนี้-16 มีนาคม 2556 เพื่อจัดส่งเอกสารไปยังประเทศต้นทาง เพื่อให้รับรองเอกสารดังกล่าว โดยสามารถดำเนินการได้ที่ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ของจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ศูนย์ทั่วประเทศ ตั้งอยู่ที่บริเวณตลาดฟุกเทียน ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้บริการ คือ เจ้าหน้าที่จากประเทศพม่า ลาว และกัมพูชา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน เพื่อออกหนังสือเดินทางการอนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว เป็นการสนับสนุนและช่วยผลักดันนโยบายของรัฐบาลเรื่องการผ่อนผันแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นกรณีพิเศษให้ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นรูปธรรมต่อไป
