สำนักวิจัยและพัฒนา ม.อ. จัดเสวนา “ หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม ” ครั้งที่ 5
ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / สำนักวิจัยและพัฒนา ม.อ. จัดเสวนา " หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม " ครั้งที่ 5 หวังกระตุ้นเตือนภัยให้ทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในปี 2556
วันนี้(18ก.ย.56) เวลา 09.00 น. ที่ โรงแรมบุรีศรีภูฯ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดงานเสวนา "หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม" ครั้งที่ 5 โดยมี นายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานเปิดการเสวนาฯ มี รศ.ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล รองอธิการบดีฝ่ายระบบวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กล่าวต้อนรับ และมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 100 คน รศ.ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล รองอธิการบดีฝ่ายระบบวิจัยและบัณฑิตศึกษา ม.อ. เปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เครือข่ายสหวิทยาการแห่งราชบัณฑิตยสถานภาคใต้ และภาคีเครือข่ายในจังหวัดสงขลา จัดเสวนาในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนภัยให้แต่ละภาคส่วนเตรียมพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในปี 2556 รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแง่มุมของนักวิชาการและแนวปฏิบัติของชุมชนตัวอย่าง โดยผ่านการจัดเสวนามาแล้ว 4 ครั้ง ทำให้ได้แผนปฏิบัติการ " Hatyai Model " ซึ่งเป็นการร่วมพัฒนาระบบการดำเนินงานของหน่วยงานและเครือข่าย เริ่มตั้งแต่ระบบการเตือนภัยจนถึงระบบการช่วยเหลือที่มีทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้ และการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัยน้ำท่วม ซึ่งแต่ละกิจกรรมได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเพื่อขยายผลสู่ " Songkhla Model " ต่อไป สำหรับการจัดเสวนาฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะมีการเสวนาจากภาคส่วนต่างๆ อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา โครงการชลประทานสงขลา สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา เทศบาลนครหาดใหญ่ และศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้แล้ว ยังมีการเสวนาในประเด็นผลวิจัยเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในระยะก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุน้ำท่วม โดยผู้ที่ร่วมเสวนาในครั้งนี้ เป็นนักวิจัยที่ได้รับทุนวิจัยจากโครงการความร่วมมือระหว่าง ม.อ. กับ สกว. รวมถึงการนำเสนอภาพอนาคตของพื้นที่หาดใหญ่และปริมณฑลในการบรรเทาภัยน้ำท่วมอีกด้วย