วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ตัวแทนจากกรมปศุสัตว์และภาคเอกชนในประเทศอินโดนีเซียลงพื้นที่เยี่ยมชมฟาร์มนกเขาชวาในพื้นที่จ.สงขลาและจ.ปัตตานี

ข่าว สันติภาพ รามสูต / ตัวแทนจากกรมปศุสัตว์และภาคเอกชนในประเทศอินโดนีเซียลงพื้นที่เยี่ยมชมฟาร์มนกเขาชวาในพื้นที่จ.สงขลาและจ.ปัตตานี
วันนี้(29 ส.ค.) นางสาวโศภิษฐ์ ธัญลักษณากุล ปศุสัตว์เขต 9 นำตัวแทนจากกรมปศุสัตว์และภาคเอกชนในประเทศอินโดนีเซียลงพื้นที่เยี่ยมชมฟาร์นกเขาชวาในพื้นที่อ.จะนะ จ.สงขลา และจ.ปัตตานี ซึ่งเป็นฟาร์มที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในการจัดการฟาร์มที่ดีในวงการผู้เลี้ยงนกเขาชวาทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศอินโดนีเซียในเรื่องของการระบบบริหารจัดการฟาร์มนกเขาชวาของไทยโดยเฉพาะการควบคุมโรคไข้หวัดนก นำไปสู่การประสานความร่วมมือในการรื้อฟื้นการส่งออกนกเขาชวาเสียงของไทยไปยังประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดรองรับที่สำคัญอีกครั้งและจะเป็นอีกหนึ่งในสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ในการส่งออกของไทยที่มีมูลค่ามหาศาล นางสาวโศภิษฐ์ ธัญลักษณากุล ปศุสัตว์เขต 9 เปิดเผยว่า ทางตัวแทนปศุสัตว์และภาคเอกชนประเทศอินโดนีเซียพอใจในการพัฒนาฟาร์มนกเขาชวาของไทยให้มีมาตรฐานและการเฝ้าระวังในเรื่องของโรคไข้หวัดนก โดยหลังจากนี้ทางกรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้กับผู้เลี้ยงนกเขาในเรื่องของระบบการจัดการฟาร์ม การเลี้ยง และการควบคุมโรคให้เป็นมาตรฐาน และทางกรมปศุสัตว์จะออกหนังสือรับรองให้เพื่อยันยันว่าอยู่ภายใต้ระบบการจัดการฟาร์มสัตว์ปีกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ ซึ่งมีมาตรการควบคุมโรคและการเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นใบเบิกทางและช่วยสร้างความมั่นใจในการส่งออกสัตว์ปีกให้กับประเทศคู่ค้าและกลับมารื้อฟื้นธุรกิจการส่งออกนกเขาชวาของไทยให้กลับมาเหมือนเดิมโดยเฉพาะในอินโดนีเซียและมาเลเซียซึ่งเป็นตลาดนกเขาชวาที่สำคัญของไทย โดยคาดว่าภายในต้นปีนี้จะสามารถกลับมาส่งออกนกเขาชวาได้อีกครั้งซึ่งกำลังอยู่ระหว่างตกลงเงื่อนไขการส่งออกกับประเทศอินโดนีเซีย นางสาวโศภิษฐ์ ธัญลักษณากุล ปศุสัตว์เขต9 ยังระบุอีกว่า การเลี้ยงนกเขาชวามีการพัฒนาเป็นอาชีพให้เป็นเอกลักษณ์ที่นำรายได้ให้กับชุมชนชายแดนภาคใต้ และส่งผลดีต่อการสร้างอาชีพอื่นๆในภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว เช่น การทำกรงนก ผ้าคลุมกรงนก ผลิตอาหารนก การแข่งขันนกเขาชวาและจากชื่อเสียงของนกเขาชวาของไทย ชาวต่างประเทศจึงนิยมและยอมรับนกเขาชวาของไทย โดยมีประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นตลาดรองรับที่สำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย นกเขาชวายังเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้เลี้ยงในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีการหมุนเวียนของเงินตราที่มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนจำนวนมหาศาล แต่จากปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนกในแถบเอเชียอาคเนย์ใน2547ส่งผลให้การเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกเพื่อการนำเข้าและส่งออกประสบกับอุปสรรค เพราะโรคไข้หวัดนกกลายเป็นข้อกีดกันทางการค้า กระทบโดยตรงต่อวงการนกเขาชวาเสียง ทำให้การส่งออกนกเขาชวาต้องหยุดชะงักลง เป็นผลให้อาชีพการเลี้ยงนกเขาชวาและอาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบตามมาด้วย แต่หลังจากที่ไทยสามารถควบคุมโรคไข้หวัดนกได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ปี2551 จนถึงขณะนี้เชื่อว่าการส่งออกนกเขาชวาของไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...