นักวิชาการประมง ระบุสาเหตุปลากะพงขาวในกระชังที่เกาะยอตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากติดเชื้อพยาธิภายนอกและเชื้อแบคที่เรียภายใน
ข่าว สันติภาพ รามสูต / นักวิชาการประมง ระบุสาเหตุปลากะพงขาวในกระชังที่เกาะยอตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากติดเชื้อพยาธิภายนอกและเชื้อแบคที่เรียภายใน ส่วนสาเหตุจากการเกิดโรคเนื่องจากปลามีความเครียดและความอ่อนแอจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมแนะแนวทางแก้ไข
จากกรณีที่ปลากะพงขาวในกระชัง บริเวณหมู่ที่ 1 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ลอยตายเป็นจำนวนมากเกลื่อนกระชังกว่า 100 กระชัง ตั้งแต่ขนาด 8 - 12 นิ้ว อายุในการเลี้ยง 2 - 5 เดือน น้ำหนักประมาณ 25 – 50 กรัม ผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังกำลังได้รับความเดือดร้อนและประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากปลาตายเกลื่อนกระชังเป็นรายวัน และลอยหัวเตรียมที่จะตายอีกเป็นจำนวนมาก และนักวิชาการประมงจากสถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำชายฝั่ง สถาบันวิจัยสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดสงขลาและสำนักงานประมงจังหวัดสงขลา ได้เข้ามาดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำ ดูสภาพแวดล้อมและเก็บตัวอย่างปลาที่กำลังลอยหัวใกล้จะตายเพื่อนำไปทำการตรวจโรค ดูสภาพแวดล้อมทั่วไป แล้วนำมาประมวลผลทั้งหมด เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา
ในวันนี้ (29ต.ค.55) นายสหัส ปาณะศรี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมงจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ทางสำนักงานฯได้รับแจ้งผลการตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุการตายของปลากะพงขาวที่เกาะยอ เนื่องจากการติดเชื้อพยาธิภายนอกหลายชนิด ได้แก่ ปลิงใส กระสวย 2 หาง เห็บระฆัง เหาน้ำ เกาะติดบริเวณลำตัวและเหงือกของปลากะพงเป็นจำนวนมากและการติดเชื้อแบคทีเรียพวก vibrio ที่อวัยวะภายในที่ตับและไต ซึ่งโดยปกติปลามักเกิดโรค เนื่องจากมีความเครียดและความอ่อนแอ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง เช่น ฝนตก เกิดการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำและอุณหภูมิ หรือสิ่งแวดล้อมในแหล่งเลี้ยงไม่เหมาะสม หรือการเลี้ยงปลาที่หนาแน่น สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยให้ปลาอ่อนแอและติดเชื้อได้ง่าย ส่วนผลการตรวจวัดคุณสมบัติของน้ำพบว่า ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำที่วัดได้มีค่าค่อนข้างต่ำ คือ 4.42 – 4.81 มิลลิกรัมต่อลิตร
อย่างไรก็ตามทางสถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำชายฝั่ง สถาบันวิจัยสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดสงขลาและสำนักงานประมงจังหวัดสงขลา จะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง อบต.เกาะยอ ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง มาร่วมกันหารือแบบบูรณาการเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยเร็ว ก่อนที่ชาวเกาะยอจะไม่มีที่เลี้ยงปลาจากสภาพแวดล้อมในแหล่งเลี้ยงปลาในกระชังที่นับวันจะเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ