ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เป็นประธานเปิดการสัมมนาและการฝึกปฏิบัติการร่วมศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางทะเลอันมีมูลค่ามหาศาล

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เป็นประธานเปิดการสัมมนาและการฝึกปฏิบัติการร่วมศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางทะเลอันมีมูลค่ามหาศาล

วันนี้(24มิ.ย.57) เวลา 13.30 น. ที่ โรงแรม ลี การ์เด้น พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 (ศรชล.เขต 2) เป็นประธานเปิดการสัมมนาและการฝึกปฏิบัติการร่วมศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 ประกอบด้วย จ.สงขลา ปัตตานี นราธิวาส นครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานี โดยมี นาวาเอกณัฐพงศ์ ปาณโสภณ ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการสัมมนาโดยพร้อมเพรียงกัน พลเรือโทชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ตามที่ทราบกันว่าผลประโยชน์ทางทะเลนั้นมีมูลค่ามหาศาล ทั้งจากทรัพยากรทะเล สัตว์น้ำ ก๊าซธรรมชาติ  ปิโตรเลียม แร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งการพาณิชย์นาวี และการท่องเที่ยว ซึ่งปีหนึ่งๆ มีมูลค่ารวมกันประมาณ 12 ล้านล้านบาท ประกอบกับพื้นที่ทะเลอ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ ศรชล.เขต 2 นับเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก คือ เป็นประตูทางผ่านเข้า-ออกประเทศ เรือสินค้าต่างๆ มีแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก รวมทั้งชายฝั่งทะเล และเกาะต่างๆ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอีกด้วย ดังนั้น หน่วยงานต่างๆใน ศรชล.เขต 2 และผู้ที่ใช้ประโยชน์จากทะเล จะต้องช่วยกันรักษาให้คงอยู่สืบไป  จึงได้จัดการสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น ระหว่างวันที่ 24- 27 มิถุนายน 2557 เพื่อให้ผู้ที่ร่วมสัมมนา ทั้งเจ้าหน้าที่ของ ศรชล.2 หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทะเล ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อผนึกกำลังร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในทะเลต่อไป กิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การสัมมนาในหัวข้อการแก้ไขปัญหาการแย่งชิงพื้นที่ทำการประมง , การแก้ไขปัญหาเรือประมงเข้าในเขตปลอดภัยรอบสถานที่ผลิตปิโตรเลียม 500 เมตร , การปราบปรามการค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงานบนเรือประมง และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการปฏิบัติงานในทะเล ได้แก่ การตรวจค้นเรือต้องสงสัย และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล , การออกเรือไปกับเรือหลวงกระบี่ เพื่อชมการสาธิตบริเวณหน้าอ่าวสงขลาอีกด้วย